เพราะว่าฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นก็มีดีกว่าที่เราคิดเยอะเลยนะ ที่สำคัญ ทัวร์ญี่ปุ่น ช่วงหน้าร้อน ราคาจะถูกกว่าปกติด้วยนะ!! ทั้งตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม เที่ยวช่วงนี้คุ้มยิ่งกว่าที่เคย ใครอยากมาญี่ปุ่นแบบประหยัดต้องไม่พลาดหน้าร้อนญี่ปุ่นที่กำลังจะมานี้เลยค่ะ มัชรูมทราเวล จะพาไปดูว่า เที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อน ดียังไง ไปเที่ยวที่ไหนดีน๊าา...?

 

 

สำหรับฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วง เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเริ่มต้นฤดูเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 32 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงปลายๆ ฤดู อุณหภูมิอาจแตะถึง 36 องศาเซลเซียส แต่สำหรับการ เที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อน ของคนไทยนั้น อุณภูมิเท่านี้พอๆ กับบ้านเราเลยค่ะ ดีซะอีกจะได้ใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่ต้องพกเสื้อกันหนาวหนาๆ ไปให้หนักกระเป๋า ถ้าอยู่ข้างนอกนานๆ ก็หาหมวกหรือเสื้อคลุมบางๆ ใส่กันยูวีก็ดีค่ะ ถ้าจะไปเที่ยววัดหรือศาลเจ้าก็ต้องแต่งตัวสุภาพกันด้วยนะ บางวันในช่วงนี้ก็อาจมีพายุฤดูร้อน ฝนตกหนักแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเกิดขึ้นได้บ้าง ทางที่ดีพกร่มติดตัวไปด้วยทุกที่นะคะ

 

ถึงจะร้อนแค่ไหน ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว เทศกาลต่างๆ และสิ่งที่น่าสนใจ รอเราไป ทัวร์ญี่ปุ่น สัมผัสอีกหนึ่งบรรยากาศสบายๆ เรามาเริ่มกันจาก...

 

ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ โทมิตะฟาร์ม เมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด

 

อีกหนึ่งไฮไลท์ของหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นก็คือ ทุ่งลาเวนเดอร์ สีสวยสด ที่คอยให้เราไปชม ซึ่งสถานที่ชมยอดฮิตก็คือที่ ฮอกไกโด เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นนั่นเอง ด้วยความที่เป็นเมืองทางเหนือ อากาศก็จะเย็นสบายกว่าภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ และไม่มีฝนในฤดูร้อนด้วย เพราะฉะนั้นมาเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโดกันได้อย่างสบายใจ แนะนำให้ไปชมที่ โทมิตะฟาร์ม (Tomita Farm) ในเมืองฟุราโนะ แห่งฮอกไกโด ที่นี่มีทุ่งลาเวนเดอร์ และทุ่งดอกไม้ชนิดอื่นๆ บนพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา โดยดอกสีม่วงจะบานไปทั่วทั้งภูเขาในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม มา ทัวร์ญี่ปุ่น ทั้งทีต้องไม่พลาดทุ่งดอกลาเวนเดอร์นะคะ

 

เวลา เปิด-ปิด : 24 ชั่วโมง

วิธีการเดินทาง : รถไฟ JR Furano Line ลงที่ Lavender Batake Station (จาก Furano ใช้เวลา 20 นาที) แล้วเดินต่ออีก 5-10 นาที

แผนที่ :
 

ทุ่งดอกไม้ ฟลาวเวอร์แลนด์ เมืองคามิฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด

 

อีกหนึ่งฟาร์มดอกไม้ในสวนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของฮอกไกโด ก็คือที่ ฟลาวเวอร์แลนด์ คามิฟุราโนะ (Flower Land Kamifurano) โดดเด่นด้วยพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดที่ปลูกเรียงเป็นทิวแถวบนเทือกเขาโทกาชิ (Tokachi) ไกลจนสุดสายตา โดยเราสามารถนั่งรถแทรกเตอร์ชมทุ่งดอกไม้อย่างใกล้ชิดได้ด้วยนะ

 

เวลา เปิด-ปิด : 9.00 – 18.00 น.

วิธีการเดินทาง : นั่งแท็กซี่จาก Kimifurano Station ไปประมาณ 5 นาที

แผนที่ : 
 

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย เมืองฮาโกเน่ จังหวัดคานางาวะ

 

เที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อน ยังไม่หมดกับการชมดอกไม้ ไปถ่ายรูปสวยๆ กันต่อ กับการชม ดอกไฮเดรนเยีย หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกอาจิไซ (Ajisai) เป็นดอกไม้ช่อที่สวยงาม เราสามารถมาญี่ปุ่นเพื่อชมทุ่งดอกไฮเดนเยียที่เมืองฮาโกเน่ ด้วยการนั่งรถไฟสายอาจิไซ ที่จะวิ่งผ่านทุ่งดอกไม้ชนิดนี้เป็นทางยาว โดยดอกไฮเดรนเยียจะเริ่มบานก่อนเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยดอกลาเวนเดอร์ และยังเป็นช่วงเวลาที่สถานที่สำคัญอย่างวัด ถนน และพิพิธภัณฑ์ของเมือง จะเต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียเลยล่ะค่ะ

 

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hakone Tozan จากเมืองฮาโกเน่

แผนที่ : 
 

รับลมทะเลที่ ชายหาดเอโนะชิมะ จังหวัดคานางาวะ

 

 

เที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อน ไปสัมผัสบรรยากาศชายหาดริมทะเลที่ ชายหาดเอโนะชิมะ ตั้งอยู่บนเกาะเอโนะชิมะ ติดชายฝั่งเมืองฟูจิซาวะ โดยเราสามารถข้ามสะพานไปยังตัวเกาะได้ ที่นี่มีชื่อเสียงในการเล่นน้ำช่วงฤดูร้อนเพราะอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ สามารถเล่นน้ำ รวมถึงกิจกรรมทางน้ำ เช่น เล่นกระดานโต้คลื่นได้ ในหน้าร้อนที่นี่จะคึกคักไปด้วยผู้คนโดยเฉพาะในวันหยุด มีกิจกรรมชายหาดให้ทำมากมาย

 

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟที่ไปลงสถานี Enoshima

แผนที่ : 
 

ชมเทศกาลทานาบาตะ ที่โตเกียว

 

เทศกาลทานาบาตะ เป็นหนึ่งในเทศกาลฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดในวันที่ 7 เดือน 7 โดยเทศกาลนี้เกี่ยวกับตำนานความรักระหว่างเจ้าหญิงทอผ้า และชายเลี้ยงวัวของญี่ปุ่น เมื่อถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ชาวเมืองจะออกไปตามวัดและท้องถนน เพื่อเขียนคำอธิษฐานใส่กระดาษสีแล้วผูกกับกิ่งไม้ ทำให้ช่วงนี้ทั่วทั้งโตเกียวและเมืองอื่นๆ จะเต็มไปด้วยสีสัน พร้อมอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารมากมาย ที่มาออกร้านขายของกินท้องถิ่นกันอย่างคึกคัก ซึ่งเวลานี้ผู้คนจะแต่งกายด้วยชุดยูกะตะ บริเวณงานก็จะประดับประดาด้วยโคมไฟ และนกกระเรียนกระดาษ ใครมาญี่ปุ่นแล้วอยากลองใส่ชุดยูกะตะออกมาเดินตามถนนแล้วไม่รู้สึกเขินก็วันนี้แหละค่ะ

 

วิธีการเดินทาง : วัดทั่วโตเกียวใกล้ที่พักของคุณ

แผนที่ : 
 

เทศกาลประดับไฟทางช้างเผือก (The Milky Way Illumination) ที่โตเกียวทาวเวอร์

 

 

เทศกาลประดับไฟในญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ในฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ แต่มา เที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อน ก็สามารถชมงานประดับไฟสวยๆ ได้เช่นกัน นั่นก็คือที่ เทศกาลประดับไฟทางช้างเผือก หรือ The Milky Way Illumination ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคม ที่โตเกียวทาวเวอร์ โดยที่บริเวณชั้น 1 ของ Main Deck จะประดับด้วยหลอดไฟสีฟ้ารอบทิศทาง เป็นเหมือนทางช้างเผือกให้เข้ากับเทศกาลทานาบาตะ ชั้นบนของหอคอยจะอนุญาตให้เที่ยวชมในเวลากลางคืนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลนี้ และใครก็ตามที่สามารถเดินพิชิตบันไดขึ้นหอคอยแทนลิฟต์ได้ ก็จะได้รับประกาศนียบัตรอีกด้วย ลองไปทดสอบความแข็งแรงของกล้ามขากันดูค่ะ

 

เวลา เปิด-ปิด : จะเริ่มเปิดไฟช่วงเวลา 17.00-22.00 น.

วิธีการเดินทาง : จาก Akabanebashi Station เดินต่อประมาณ 10 นาที

แผนที่ : 
 

เทศกาลดอกไม้ไฟริมแม่น้ำซุมิดะ ที่โตเกียว

 

 

เทศกาลดอกไม้ไฟ เป็นเทศกาลที่ขาดไม่ได้ในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่น โดยทุกปีที่กรุงโตเกียวจะมี เทศกาลดอกไม้ไฟริมแม่น้ำซุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival) ซึ่งจัดขึ้นเพียงวันเดียวในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ท้องฟ้ามืดมิดจะสว่างไสวและเต็มไปด้วยสีสันอันสวยงามของดอกไม้ไฟละลานตากว่า 20,000 ดอก ซึ่งดอกไม้ไฟแต่ละชุดก็มีลวดลายแตกต่างกันไป โดยเราสามารถจับจองที่นั่งริมฝั่งแม่น้ำเพื่อชมเทศกาลพลุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด

 

เวลา : ดอกไม้ไฟจะเริ่มแสดง 19.05 จนถึง 20.30 น.

วิธีการเดินทาง : จาก Asakusa Station เดินต่อประมาณ 15 นาที

แผนที่ : 
 

เทศกาลคันโต มัตสึริ จังหวัดอาคิตะ (Akita)

 

 

เทศกาลคันโตมัตซึริ (Kanto Matsuri) หรือ เทศกาลเสาโคมไฟ (Pole Lantern Festival) เป็นเทศกาลใหญ่ของเมืองอาคิตะที่จัดขึ้นในช่วงวันที่ 3 – 6 สิงหาคมของทุกปี เป็นหนึ่งในเทศกาลหน้าร้อนของญี่ปุ่นที่มีความน่าตื่นตาเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะได้ชมขบวนแห่ที่มีชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นแข่งขันกันถือเสาโคมไฟ ซึ่งทำจากกระบอกไม้ไผ่สูง 12 เมตร แขวนโคมญี่ปุ่นที่จุดไฟสว่าง 46 โคม น้ำหนักรวมกว่า 50 กิโลกรัม และต้องถือตัวคนเดียวด้วยมือ ไหล่ หน้าผาก หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเพียงจุดเดียวเท่านั้น! อเมซิ่งเจแปนมากๆ

 

เวลา : เริ่มขบวนแห่ตั้งแต่ 19.25 – 21.00 น.

วิธีการเดินทาง : ถนน Chou Dori เดินจากสถานีรถไฟ Akita ประมาณ 5 นาที

แผนที่ : 
 

Source : mushroomtravel