เที่ยวญี่ปุ่น : รวมมิตร 7 จุดน่าเที่ยว “ชิซูโอกะ” จังหวัดบ้านเกิดภูเขาไฟฟูจิ

กินเที่ยว
เที่ยวญี่ปุ่น : รวมมิตร 7 จุดน่าเที่ยว “ชิซูโอกะ” จังหวัดบ้านเกิดภูเขาไฟฟูจิ

ถ้านับความสนใจของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วหล่ะก็ เราคิดว่าคงมีมากกว่าครึ่งที่ให้เหตุผลว่า ไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะว่าอยากจะเห็นภูเขาไฟฟูจิ

ซึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปดูฟูจิซังหรือว่าภูเขาไฟฟูจินั้น ก็คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก คาวากูจิโก จังหวัดยะมะนะชิ แต่คราวนี้เราอยากจะขอแนะนำให้รู้จักกับจังหวัดที่ชื่อว่า Shizuoka ชิซูโอกะ เป็นจังหวัดที่เรียกได้ว่าเป็นบ้านเกิดของภูเขาไฟฟูจิ ไม่น้อยหน้าไปกว่าจังหวัดยอดฮิตอย่างยะมะนะชิแน่นอน เอาเป็นว่า วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปเที่ยวชิซูโอกะ ไปดูความว้าวที่ไม่น้อยหน้าคาวากูจิโกะกันค่ะ
 
ShopBack Tips : ภูเขาไฟฟูจิที่คาวากูจิโกะต่างจากที่ชิซูโอกะตรงไหนรู้มั้ยคะ...? คนญี่ปุ่นท้องถิ่นให้ข้อมูลว่าความต่างอยู่ตรงที่การสมมาตรของภูเขาไฟนั่นเองหล่ะค่ะ ถ้ามองฟูจิซังที่คาวากูจิโกะจะเห็นความภูเขาไฟที่เอียงๆ หน่อย แต่ถ้ามองฟูจิซังจากที่จังหวัดชิซูโอกะจะเห็นภูเขาไฟที่สมมาตรกันพอดี จริงหรือเปล่า ลองไปพิสูจน์กันดูนะคะ สำหรับใครที่มีเวลาพร้อมเดินทางแล้วแต่กำลังมองหาช่องทางจองตั๋วเครื่องบินและที่พักอยู่ ลองดูที่ Expedia แล้วอย่าลืมจองผ่าน ShopBack นะคะ
 
 
มาถึง Shizuoka แล้วเที่ยวไหนดี ?
 
เนื่องจากเป็นเมืองบ้านเกิดของภูเขาไฟฟูจิ ดังนั้น ไม่ว่าจะมองไปที่ไหนในเมืองนี้ก็สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ค่ะ (ถ้าวันที่ฟ้าสดใสนะ) ซึ่งนอกจากภูเขาไฟฟูจิในชิซูโอกะแล้ว วันนี้เราจะขอพาเที่ยวชิซูโอกะในที่อื่นๆ อีกค่ะ แต่จะเป็นที่ไหนบ้าง ลองตามมาดู
 
Mishima Skywalk

 
ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ควรค่าแก่การเดินทางไปที่หนึ่งเลยค่ะ เพราะนอกจากจะมองเห็นฟูจิซังได้อย่างเต็มตาแล้ว ยังได้วิวสวยงามที่แปลกตาจากสะพานแห่งนี้อีกด้วยค่ะ ถ้าคุณเป็นคนชอบความท้าทาย เราอยากให้มาลองเดินสะพานนี้สักครั้ง เพราะการมองเห็นวิวฟูจิซังและฟ้ากว้างๆ จากสะพานสูงๆ เดินรับอากาศดีๆ ยาวๆ 400 เมตร มันให้ความรู้สึกแบบที่อยากตะโกนออกมาว่าสุโก้ยเลยหล่ะค่ะ ลองไปกันดูนะคะ Mishima Skywalk สวยจริง บอกต่อค่ะ 
 
เมือง Izu

 
ที่เมืองนี้มีกิจกรรมน่าสนุกให้ลองทำเต็มไปหมดเลยน่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวฟูจิซังแบบเต็มตาที่ Izu Panorama Park ไปชมศิลปะและชิมขนมหวานที่ทำจากสตรอเบอรี่สวยๆ และที่พลาดไม่ได้ก็คือไปเปิดประสบการณ์วาซาบิสดๆ ที่วาซาบิมิวเซียมกันค่ะ นอกจากนี้ ถ้าใครแวะมาที่แหลมอิซุแล้ว อยากให้ลองกินปูที่มีชื่อว่า Takaashi กันดูนะคะ ว่ากันว่าเป็นปูทะเลน้ำลึกที่หากินได้แค่ที่นี่เท่านั้นค่ะ ใครสนใจเที่ยว Izu และอยากได้ข้อมูลที่ลึกลงไปอีก ลองเข้าไปดูต่อกันได้นะคะ
 
Shuzenji

 
บอกเลยว่าเป็นเมืองที่น่ารักมากสุดๆ ไปเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบความเป็นเมืองเก่า ได้กลิ่นอายแบบเกียวโต รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ที่นี่เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องของน้ำแร่ธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่าออนเซนค่ะ นอกจากนี้ยังเหมาะมากๆ กับสาวๆ ทั้งสาวโสดและสาวมีคู่ในเรื่องการขอพรเรื่องความรัก แนะนำให้มาไหว้ที่วัดชูเซ็นจิ จากนั้นให้เดินข้ามสะพานขอพรความรัก ส่วนสาวๆ คนไหนที่อยากแต่งตัวให้เข้ากับเมืองเก่าญี่ปุ่นดูบ้าน ที่นี่ก็มีร้านเช่ากิโมโนไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยหล่ะค่ะ ลองมาเที่ยว Shuzenji กันดูนะคะ
 
ShopBack Tips : ใครแวะไป Shuzenji อย่าลืมซื้อเครื่องรางนำโชคมาด้วยนะคะ คนท้องถิ่นบอกว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ แถมออฟฟิศที่เปิดขายเครื่องรางของวัดยังเปิดๆ ปิดๆ ต้องใช้ด้วยอย่างมากในการซื้อ ใครดวงดี ก็คือได้ซื้อค่ะ ส่วนใครที่ไปถึงแล้ว ซื้อไม่ทันก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ ลองเข้าไปที่ Amazon JP เพื่อหาซื้อของที่ระลึกหรือของอื่นๆ จากญี่ปุ่นกันได้เช่นกันค่ะ
 
Nishiizu
 
 
สำหรับสายชิวที่ชอบธรรมชาติเป็นที่สุด เราขอแนะนำให้มาเที่ยว Nishiizu ค่ะ เพราะว่าที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยจนเก็บไปนอนฝันยาวๆ ได้เลยล่ะค่ะ จุดชมพระอาทิตย์ตกดินของที่นี่มีทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน แถมมีกิจกรรมให้นั่งเรือชมความงามทั้งพระอาทิตย์และหินตามธรรมชาติอีกด้วย เรียกได้ว่า มาที่นี่แล้วได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวที่นี่ก็คือการแวะไปซื้อ หรือไปเรียนรู้กระบวนการทำ katsuobushi หรือว่าปลาโอแห้งที่เอาไว้โรยบนทาโกะยากินั่นหล่ะค่ะ เพราะที่นี่เป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่ใช้วิธีการผลิตแบบโบราณและยังคงสืบสานอยู่ น่าสนใจและน่าประทับใจมากๆ ค่ะ
 
Shimoda

 
เมืองเล็กๆ น่ารักที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มาที่นี่คุณจะได้ท่องเที่ยวตามรอยนายพลเพอร์รี่ ผู้ที่เปิดประเทศญี่ปุ่นหลังจากปิดประเทศ ไม่ทำการค้าขาย อีกทั้งควบคุมการเข้าออกของคนในประเทศมานานกว่า 200 ปี สำหรับใครที่ชอบดอกไม้ สามารถแวะไปที่สวนชิโดะ ไปดูไฮเดรนเยียมากกว่า 50 สายพันธุ์กันได้ หรือใครอยากเห็นวิวแปลกตา แนะนำให้ไปที่ Ryugu Sea Cave แรงบันดาลใจของฉากหนึ่งใน Parco Rosso หนึ่งในอะนิเมะของสตูดิโอจิบลิอันโด่งดัง ที่จะได้เห็นแสงส่องลงมาในถ้ำหินที่สวยงามจากการกัดกร่อนทางธรรมชาติ เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ ยังไม่หมดแค่นี้ ใครที่มาเที่ยว Shimoda ไม่ควรพลาดที่จะลองชิมเบอร์เกอร์ปลากินเมได ปลาทะเลน้ำลึกที่มีไขมันมากกว่าปลาทะเลทั่วไป เข้มข้น ชิ้นใหญ่ อิ่มแน่นอนค่ะ
 
Numazu

 
แรงบันดาลใจแห่งฉากหลังของอะนิเมะเรื่อง Love Live! Sunshine! ใครที่อยากชมฟูจิซังในมุมสงบๆ ลองมาเที่ยว Numazu กันดูนะคะ มาที่นี่คุณจะได้สนุกกับตลาดปลานูมะซุ ที่คุณสามารถมาดูตอนเค้าประมูลปลากันได้ แวะไปดูประตูน้ำ “วิวโอ” ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น กินอาหารทะเลจากร้านอาหารสดใหม่เสมอของชาวประมงเอง เดินเล่นพิพิธภัณฑ์ปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งบอกเลยว่าที่นี่คุณจะได้เห็นปลาแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนแน่นอน สำหรับแฟนอะนิเมะเรื่องดัง ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะที่เมืองนี้มีเรื่องราวมากมายให้คุณได้ถ่ายรูปรัวๆ แน่นอน
 
Ito

 
มาที่นี่ต้องไปดูภูเขาไฟที่ดับแล้วที่มีชื่อว่าโอมุโระค่ะ ภูเขาไฟลูกนี้มีความสูงถึง 580 เมตร นอกจากทิวทัศน์จะงดงามแล้ว ยังสามารถชมดอกไม้ในฤดูกาลต่างๆ เช่น ซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวสดๆ ในฤดูร้อน หรือว่าใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย เมื่อนั่งกระเช้าขึ้นชมภูเขาจนพอใจแล้ว อยากให้แวะไปที่ Saboten Zoo สวนสัตว์ที่มีจุดขายเรื่องต้นกระบองเพชรที่มีมากกว่า 1,500 สายพันธุ์ ไฮไลท์ของที่นี่คือเจ้าคาปิบาร่าที่มีช่วงเวลาในการแช่ออนเซนให้เราได้ชมกันแบบใกล้ชิดอีกด้วย นอกจากสวนสัตว์แล้ว เราอยากให้ไปที่ Tokaikan เรียวกังเก่าแก่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนโรงอาบน้ำในเรื่อง Spirited Away ที่นี่เก่าแก่ แต่ยังคงสวยงาม ความน่าสนใจของเรียวกังที่นี่คือทำจากไม้ทั้งต้น เป็นงานไม้คุณภาพดี ที่ได้เห็นการตกแต่งและดีไซน์คุณภาพที่มาจากช่างฝีมือที่หาตัวจับยาก ความน่ารักของที่นี่คือให้เช่ายูกะตะเพื่อเที่ยวชมเมืองได้ด้วยนะคะ แถมทิ้งไว้ที่โรงแรมได้เลยไม่ต้องเอามาคืนค่ะ ใครสนใจลองไปเที่ยว Ito ดูนะคะ
 
เดินทางยังไงดี...?
 
วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือการเช่ารถขับค่ะ แต่ถ้าหากไม่สะดวกก็สามารถใช้รถไฟเพื่อลงที่สถานีมิชิมะ แล้วต่อรถบัสเพื่อท่องเที่ยวได้ค่ะ สำหรับใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่น แนะนำให้ซื้อประกันเดินทาง อย่างเช่น MSIG แล้วอย่าลืมซื้อผ่าน ShopBack เพื่อรับและสะสมเงินคืนกันด้วยนะคะ
 
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับที่เที่ยวแนะนำในชิซูโอกะ บอกเลยว่าแต่ละเมืองนั้นน่าสนใจมากๆ อยากให้ใช้เวลาในแต่ละเมืองอย่างน้อยที่สุดคือ 1 วัน เพื่อให้เพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่และไม่ต้องเร่งรีบมากนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่เที่ยวญี่ปุ่นมาหลายรอบแล้ว มา Shizuoka เที่ยวคราวนี้ ลองมาเปิดประสบการณ์เที่ยวแบบใกล้ชิดท้องถิ่นกันดูนะคะ ไม่ใช่ที่ฮิตแต่จะติดอยู่ในใจคุณแน่นอนค่ะ
 
Special Thanks : การท่องเที่ยวเมือง Izu จังหวัด Shizuoka
 
หาข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆ ที่ : www.jnto.or.th/


Source : SHOPBACK