เตรียมใช้สนามช้าง อารีนา จัดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47
คณะกรรมการคัดเลือกสถานที่ เลือกสนาม ช้าง อารีนา จัดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47
วันที่ 5 เมษายน 2562 เวลา 13.30 น. ณ ที่ทำการสมาคมฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) จัดการประชุมเพื่อวางแผนการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47
การประชุมในครั้งนี้ นำโดย คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน พร้อมด้วยคณะกรรมการคัดเลือก, ฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมฯ, ตัวแทนจากบริษัท ไทยลีก จำกัด และตัวแทนจาก บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)
หลังการประชุม คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน กล่าวว่า "สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อหามติข้อสรุปเรื่องของการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีแนวทางที่อยากกระจายการจัดการแข่งขันในระดับ A Match ไปในต่างจังหวัด เพื่อทำให้แฟนบอลมีความสุขกับการชมฟุตบอลมากยิ่งขึ้น"
"ทำให้ทางสมาคมฯ ต้องหาสนามในต่างจังหวัด ที่สามารถรองรับการจัดการแข่งขันในระดับ A Match ได้ ซึ่งก็มีอยู่ประมาณ 3 ถึง 4 ที่ ที่อยู่ในเป้าหมาย นั่นก็คือ บุรีรัมย์ ราชบุรี สุพรรณบุรี และสงขลา นอกจากนั้น ในปีนี้ทางราชมังคลากีฬาสถานมีการปรับปรุงสนาม เพื่อรองรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ในปีหน้า”
“ตรงนี้จึงถือว่าเป็นจังหวะที่ดี ดังนั้น สนามที่มีความเหมาะสมสามารถรองรับได้ ทั้งความจุ สภาพสนาม สนามซ้อม โรงเเรมที่พัก การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้ว ที่ประชุมมีมติว่า จะทำการจัดการแข่งขันที่จังหวัดบุรีรัมย์ สนามช้าง อารีนา"
"ในส่วนของความพิเศษบุรีรัมย์ มีความพร้อมในการจุถึง 32,600 ที่นั่ง มีสนามซ้อมที่เพียงพอ นอกจากนี้ความพิเศษจะอยู่ที่การเชิญแฟนบอลในโซนภาคอีสาน มาสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันของทีมชาติไทย ซึ่งเราจะทำการแข่งขันในวันพุธที่ 5 และวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2562"
"เรื่องของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ตอนนี้ที่ตอบตกลงมาเเล้วคือ ทีมชาติอินเดีย และทีมชาติเวียดนาม ส่วนอีกหนึ่งทีมรอคำตอบเร็วๆ นี้ แต่ทั้ง 3 ทีมมีแรงกิ้งที่สูงกว่าทีมชาติไทยแน่นอนครับ"
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ จะจัดการแข่งขัน ที่สนาม ช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 ซึ่งการแข่งขันทุกนัดจะได้รับการรับรองจากฟีฟ่า และ เอเอฟซี ให้เป็น แมตช์ระดับ International 'A' Match และมีการนำผลลัพธ์ไปคำนวนคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง โดยถ่ายทอดสด ทางช่อง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32
ที่มา : FA Thailand
การประชุมในครั้งนี้ นำโดย คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน พร้อมด้วยคณะกรรมการคัดเลือก, ฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมฯ, ตัวแทนจากบริษัท ไทยลีก จำกัด และตัวแทนจาก บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)
หลังการประชุม คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน กล่าวว่า "สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อหามติข้อสรุปเรื่องของการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีแนวทางที่อยากกระจายการจัดการแข่งขันในระดับ A Match ไปในต่างจังหวัด เพื่อทำให้แฟนบอลมีความสุขกับการชมฟุตบอลมากยิ่งขึ้น"
"ทำให้ทางสมาคมฯ ต้องหาสนามในต่างจังหวัด ที่สามารถรองรับการจัดการแข่งขันในระดับ A Match ได้ ซึ่งก็มีอยู่ประมาณ 3 ถึง 4 ที่ ที่อยู่ในเป้าหมาย นั่นก็คือ บุรีรัมย์ ราชบุรี สุพรรณบุรี และสงขลา นอกจากนั้น ในปีนี้ทางราชมังคลากีฬาสถานมีการปรับปรุงสนาม เพื่อรองรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ในปีหน้า”
“ตรงนี้จึงถือว่าเป็นจังหวะที่ดี ดังนั้น สนามที่มีความเหมาะสมสามารถรองรับได้ ทั้งความจุ สภาพสนาม สนามซ้อม โรงเเรมที่พัก การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้ว ที่ประชุมมีมติว่า จะทำการจัดการแข่งขันที่จังหวัดบุรีรัมย์ สนามช้าง อารีนา"
"ในส่วนของความพิเศษบุรีรัมย์ มีความพร้อมในการจุถึง 32,600 ที่นั่ง มีสนามซ้อมที่เพียงพอ นอกจากนี้ความพิเศษจะอยู่ที่การเชิญแฟนบอลในโซนภาคอีสาน มาสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันของทีมชาติไทย ซึ่งเราจะทำการแข่งขันในวันพุธที่ 5 และวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2562"
"เรื่องของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ตอนนี้ที่ตอบตกลงมาเเล้วคือ ทีมชาติอินเดีย และทีมชาติเวียดนาม ส่วนอีกหนึ่งทีมรอคำตอบเร็วๆ นี้ แต่ทั้ง 3 ทีมมีแรงกิ้งที่สูงกว่าทีมชาติไทยแน่นอนครับ"
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ จะจัดการแข่งขัน ที่สนาม ช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 ซึ่งการแข่งขันทุกนัดจะได้รับการรับรองจากฟีฟ่า และ เอเอฟซี ให้เป็น แมตช์ระดับ International 'A' Match และมีการนำผลลัพธ์ไปคำนวนคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง โดยถ่ายทอดสด ทางช่อง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32
ที่มา : FA Thailand