ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้ากัปตันทีมชาติไทย กล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยกัน และดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีทีมที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ หลังล่าสุด ช้างศึก ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเอเชียนคัพ 2019 ในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้สำเร็จ

 

อดีตกองหน้าซานเฟรชเช ฮิโรชิมา เป็นผู้เล่นหนึ่งเดียว ที่หลงเหลือมาจากเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย เมื่อปี 2007 ซึ่งขณะนั้น ‘ธีรศิลป์’ อายุเพียง 19 ปี ก่อนที่ปัจจุบัน จะก้าวสู่ผู้นำในฐานะ ‘กัปตันทีม’ และพาขุนพล ช้างศึก ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ รายการนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี นับตั้งแต่คว้าอันดับ 3 เมื่อปี 1972

 

“รู้สึกดีใจครับ ดีใจมากๆเลย เพราะ เอเชียนคัพ เป็นรายการที่มีความหมายสำหรับผม ดังนั้น ผมจึงตั้งใจมากๆ พยายามอย่างเต็มที่ และทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้” กองหน้าวัย 30 ปี กล่าวเริ่ม  

 

“ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไงดี แต่ผมรู้สึกว่า มันคุ้มค่ากับช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด จริงอยู่ที่เราเริ่มต้นได้ไม่ดี ก็ยอมรับว่า ในใจตอนนั้น คิดเหมือนกันว่า ที่รอมา 12 ปี มันจบแล้วเหรอ แต่หลังจากนั้น ทุกคนก็พยายามช่วยกัน ทุกคนเล่นเพื่อประเทศชาติ จนมันเกิดสปิริตในทีมที่ดีขึ้น และทำให้เกิดในสิ่งที่มันไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้”

 

“มันเป็นโมเมนต์ที่ผมประทับใจจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมรู้ว่าสถานการณ์เราค่อนข้างยาก แต่ทุกคนก็ยังเชื่อมั่นในกันและกัน เชื่อมั่นว่าเราจะทำได้ และผมก็เชื่อว่า ยังมีคนที่ให้กำลังใจเรา จนสุดท้าย เราเข้ารอบมาได้ และถึงแม้ว่ากฎต่างๆ จะเปลี่ยนไป ซึ่งเอื้อให้เรามีโอกาสเข้ารอบมากขึ้น แต่เราก็ไม่ได้จบในโควตาอันดับ 3 เราจบในฐานะอันดับ 2 และผมรู้สึกว่า มันเป็นอะไรที่มีความหมายมากๆ”

 

อดีตกองหน้าอัล เมเรีย ยังกล่าวต่อว่า “ส่วนหนึ่ง ที่ผมไปเล่นที่ญี่ปุ่น ก็เพราะว่า ผมอยากกลับมาช่วย ทีมชาติไทย ในรายการนี้ให้ดีขึ้น ผมไม่รู้ว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า ผมจะมีโอกาส หรือ ได้กลับมาในฐานะนักฟุตบอลที่มีโอกาสลงเล่นรายการนี้อีกหรือเปล่า มันไม่มีใครรู้ ในเมื่อครั้งนี้ ผมยังมีโอกาส ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุด ก็พูดอะไรไม่ค่อยออกครับ นอกจากรู้สึกว่า ดีใจจริงๆ ที่เราผ่านเข้ารอบมาได้”

 

“ขณะเดียวกัน ผมยังรู้สึกดีใจจริงๆ ครับ ที่มีทีมที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ถึงแม้นัดแรก โอกาสเราจะเหลือไม่เยอะแล้ว แต่สุดท้าย เราก็ทำได้ และผมก็รู้สึกว่า ตัวเองโชคดีมากๆ ด้วย ที่มีเพื่อนร่วมทีม ที่ยังคิดเหมือนกัน , ต่อสู้ไปพร้อมกัน และคนที่ยังเชื่อเหมือนกันว่า เราจะผ่านไปได้ ที่สำคัญซึ่งแม้ว่า เราจะมาจากต่างสโมสร แต่พอรวมกันแล้ว ผมรู้สึกว่า นี่คือ ทีมชาติไทย จริงๆ และ เป็น ทีมชาติไทย ที่แข็งแกร่งมากที่สุด ในช่วงเวลานี้ ก็อยากขอบคุณทุกคนครับ”

 

“เหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากขอบคุณแฟนบอลชาวไทยทุกคนด้วย ทั้งที่มาเชียร์เราที่สนาม และดูอยู่ที่บ้าน ก็ขอบคุณจริงๆครับ ที่ให้กำลังใจเรามาตลอด และยังเชื่อมั่นในตัวนักฟุตบอล รวมถึง ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคน ต่อไปก็เป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็หวังว่าแฟนบอลจะสนับสนุนเราต่อไป”

 

“ผมไม่รู้ว่า สุดท้ายเราแล้ว เราจะทำได้ดีแค่ไหน แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด และทำงานหนัก เหมือนในช่วง 2-3 นัดที่ผ่านมา” กัปตันช้างศึก ปิดท้าย

 

สำหรับ ทีมชาติไทย จะพบกับ รองแชมป์กลุ่ม ซี ระหว่าง จีน กับ เกาหลีใต้ ในศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์ ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ FOX Sports HD

ที่มา : FA Thailand