กรกช วิริยอุดมศิริ แบ็คซ้ายทีมชาติไทย แสดงทัศนคติที่ยอดเยี่ยม เมื่อยืนยันว่าตนเองไม่เคยกังวลเรื่องตำแหน่งตัวจริง หลังมองว่าเป็นผลดีมากกว่าที่ได้ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายรุ่นน้อง เข้ามาเติมเต็ม สำหรับลุยศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบสุดท้าย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ระหว่างวันที่ 5 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์นี้

 

ดาวเตะวัย 30 ปี เป็นแบ็คซ้ายตัวหลักในศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่ผ่านมา ทว่าจากการที่ทัพช้างศึกได้ ธีราทร บุญมาทัน กลับมา จึงทำให้หลายคนกำลังโฟกัสว่า ใครจะเป็นตัวเลือกแรก แต่ก็มีความเป็นไปได้ ที่ มิโลวาน ราเยวัช จะใช้งานทั้งคู่พร้อมกัน เพราะระหว่างฝึกซ้อม ‘อุ้ม’ มักถูกจับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ทางฝั่งซ้ายบ่อยครั้ง

 

“ตอนนี้โค้ชเริ่มเน้นที่ไปแท็คติคมากขึ้นครับ โดยเฉพาะความเข้าใจในการเล่น ทั้งจังหวะรุก และจังหวะรับ ซึ่งเราก็พยายามปรับจูนเข้าหากันเต็มที่ ทำให้ผมคิดว่าเวลาที่เหลือหลังจากนี้ เราน่าจะพร้อม 100% ก่อนเกมนัดแรก จะมาถึงครับ” กรกช กล่าวหลังผ่านการฝึกซ้อมวันที่ 3 ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)

 

“ในเรื่องสภาพแวดล้อมของที่นี่ ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ เพราะอย่างที่หลายคนบอก อากาศที่นี่ เย็นสบาย แทบไม่ต่างจากที่ไทย, สนามฝึกซ้อมดี และความเป็นอยู่ก็โอเค ดังนั้น เรื่องนอกสนาม ผมเชื่อว่าทุกคนปรับตัวได้แล้วครับ สิ่งสำคัญที่สุด ในตอนนี้ ก็คงอยู่ที่เรื่องในสนาม ว่าเราจะทำได้ดีแค่ไหน”

 

“ส่วนตัว ดีใจและภูมิใจมากๆ ครับ ที่ได้โอกาสเป็นส่วนหนึ่งของทีม เพราะเราก็ห่างหายจากรายการระดับนี้ไปพอสมควร แน่นอนว่า ไม่มีเกมไหนที่ง่ายอยู่แล้ว แต่ผมก็คิดว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายดีเหมือนกัน ถ้าได้รับโอกาส ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ และหวังว่า จะช่วยทีมผ่านเข้ารอบตามเป้าหมายที่วางไว้”

 

นอกจากนี้ กรกช ยังกล่าวถึงประเด็นที่หลายคนสนใจว่า “การได้ อุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) กลับมา แม้หลายคนอาจมองว่า เราต้องแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งตัวจริง แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยครับ”

 

“ผมมองว่า เป็นผลดีต่อทีมมากกว่า อย่างแรก มันทำให้โค้ช มีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คซ้ายที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ในแง่แท็คติค เพราะ อุ้ม ขยับขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์ได้ ที่สำคัญ อุ้ม เป็นผู้เล่นที่เก่ง ดังนั้น เราอยู่ที่นี่ เพื่อสนับสนุนกันมากกว่า และถ้ามีโอกาส ผมเชื่อว่าเราเล่นร่วมกันได้ครับ”

 

“สุดท้าย ผมหวังว่าแฟนบอลจะส่งกำลังใจมาให้เรากันเยอะๆ ครับ ขณะนี้เราทุกคนกำลังพยายามทำงานหนักกันมากๆ ก็ไม่รู้ว่า เราจะทำตามเป้าหมายได้หรือไม่ แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้ คือเราทุกคนจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และทุ่มเทเกิน 100% ในทุกๆ นัดครับ” กรกช ปิดท้าย

 

ทั้งนี้ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมอุ่นเครื่องแบบปิด ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชม 1 นัด พบกับ ทีมชาติโอมาน ที่สนามอาบูดาบี คริกเก็ต สเตเดียม วันที่ 2 มกราคม 2562 เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) ก่อนประเดิมพบกับ ทีมชาติอินเดีย ในเอเชียนคัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก วันที่ 6 มกราคม 2562 ณ สนาม อัล นาห์ยาน สเตเดียม เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

ที่มา : FA Thailand