สวนของคนรักปลาคาร์ปกับความสุขใต้ร่มเงาไม้ใหญ่
ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในสวนที่โดดเด่นด้วย บ่อปลาคาร์ป ย่านตลิ่งชันแห่งนี้ บรรยากาศสีเขียวและไอเย็นที่ลอยออกมาจากบ้าน ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความสบายและสดชื่น
คุณไห – ทินกร ศรีวัฒนะธรรมา จากบริษัทสวนสวยแลนด์สเคป จำกัด ผู้ออกแบบสวนแห่งนี้ กล่าวทักทายและเล่าถึงการจัดสวนแห่งนี้ให้ฟังคร่าวๆว่า “สวนและ บ่อปลาคาร์บ แห่งนี้มีรูปทรงคล้ายตัวแอล (L) ครับ มีพื้นที่บริเวณหลังบ้านค่อนข้างกว้าง แต่ตอนจัดสวนมีความยุ่งยากเล็กน้อย เพราะเราก่อสร้างน้ำตกด้วย จึงไม่สามารถเอาเครื่องจักรเข้ามาทำงานได้เต็มที่ ต้องใช้แรงงานคนทั้งหมด เราเลยเลือกใช้หินทรายแดงซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างเบากว่าหินชนิดอื่น แล้วใช้รอกจัดวางเรียงเป็นชั้นน้ำตก ส่วนเสาเข็มเองก็เช่นกัน เราต้องใช้คนตอกแทนปั้นจั่น”
สวนรายล้อมด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ให้สีสันตัดกันดูสดใส ทั้งหลักทรัพย์ เศรษฐีเรือนนอก และนางพญาคล้าทอง ถัดไปมีบ่อเลี้ยงปลาคาร์ปให้ได้ซึมซับบรรยากาศก่อนเดินข้ามสะพานไปสู่เรือนหลังเล็กที่จัดเป็นห้องรับประทานอาหาร
มุมด้านหน้าเรือนหลังเล็กออกแบบเป็นเดคไม้กว้างที่ซ่อนบ่อกรองอยู่ข้างใต้ รอบบ่อทำที่นั่งยาวแทนราวกันตกแบบธรรมดา กลายเป็นมุมนั่งเล่นผ่อนคลายอิริยบถ ทั้งยังสามารถชมปลาคาร์ปในน้ำได้อย่างใกล้ชิด
บรรยากาศภายในสวนหน้าบ้านดูร่มรื่นด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกลดหลั่นกันไปดูเป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้รกเสียทีเดียว
สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นเย็นสบายทั้งจากบ่อน้ำและพรรณไม้ทรอปิคัลที่รายล้อม กลางบ่อวางแจกันน้ำผุดใบใหญ่สร้างจุดเด่นและความเคลื่อนไหวในสวน
น้ำตกที่ไหลลดหลั่นไปตามชั้นหินทรายแดง แทรกด้วยพรรณไม้สีสันสวยงาม ทั้งขิงแดง โกสน และการะเกดหนู ช่วยสร้างความเชื่อมต่อให้มุมน้ำตกดูเป็นธรรมชาติ
มุมนั่งเล่นและรับแขกหน้าบ้านรับกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้า รายล้อมด้วยโมกพวงและไทรเกาหลีตัดแต่งตามแนวรั้ว ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ทางเดินข้างบ้านทอดยาวสู่สวนน้ำตกด้านหลัง นอกจากใช้ไม้ใบตกแต่งให้ความรู้สึกแบบสวนป่าแบบ ทรอปิคัลแล้ว ยังแทรกด้วยไม้ดอกทั้งกล้วยไม้ดิน ไอริสน้ำ และเดหลี ซึ่งปลูกในที่ร่มได้ดี
ซุ้มประตูไม้เปิดออกสู่ท่าน้ำริมคลอง ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับบริบทภายนอกที่สะท้อนวิถีชีวิตแบบไทยๆได้เป็นอย่างดี
สวนรายล้อมด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ให้สีสันตัดกันดูสดใส ทั้งหลักทรัพย์ เศรษฐีเรือนนอก และนางพญาคล้าทอง ถัดไปมีบ่อเลี้ยงปลาคาร์ปให้ได้ซึมซับบรรยากาศก่อนเดินข้ามสะพานไปสู่เรือนหลังเล็กที่จัดเป็นห้องรับประทานอาหาร
มุมด้านหน้าเรือนหลังเล็กออกแบบเป็นเดคไม้กว้างที่ซ่อนบ่อกรองอยู่ข้างใต้ รอบบ่อทำที่นั่งยาวแทนราวกันตกแบบธรรมดา กลายเป็นมุมนั่งเล่นผ่อนคลายอิริยบถ ทั้งยังสามารถชมปลาคาร์ปในน้ำได้อย่างใกล้ชิด
บรรยากาศภายในสวนหน้าบ้านดูร่มรื่นด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกลดหลั่นกันไปดูเป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้รกเสียทีเดียว
“ความจริงสวนแห่งนี้จัดเสร็จมานานแล้วครับ แต่บังเอิญเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 จึงต้องมาเริ่มจัดใหม่ ยังดีที่มีต้นไม้รอด เช่น หมากแดง กุ่มน้ำ ตีนเป็ดน้ำ จั๋ง และหมากเขียว ซึ่งทนต่อน้ำท่วมขัง ส่วนงานฮาร์ดสเคปอื่นๆก็เสียหายไม่มาก การซ่อมแซมจึงแค่ทำความสะอาด ทาสีใหม่ และเปลี่ยนต้นไม้บางส่วนเท่านั้น เลือกใช้ไม้ที่ทนต่อน้ำท่วม เช่น เกล็ดกระโห้ด่าง และลำดวน”
สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นเย็นสบายทั้งจากบ่อน้ำและพรรณไม้ทรอปิคัลที่รายล้อม กลางบ่อวางแจกันน้ำผุดใบใหญ่สร้างจุดเด่นและความเคลื่อนไหวในสวน
น้ำตกที่ไหลลดหลั่นไปตามชั้นหินทรายแดง แทรกด้วยพรรณไม้สีสันสวยงาม ทั้งขิงแดง โกสน และการะเกดหนู ช่วยสร้างความเชื่อมต่อให้มุมน้ำตกดูเป็นธรรมชาติ
สะพานไม้เชื่อมต่อระหว่างบ้านกับเรือนรับประทานอาหารโดยผ่านบ่อน้ำที่มีฝูงปลาคาร์ปว่ายอยู่เต็มบ่อ สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ทุกคนที่เดินเข้ามาในสวน
ระหว่างที่เดินคุยกัน หูผมก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังแว่วมาแต่ไกล เหมือนมีมนตร์บางอย่างพาให้ผมมุ่งตรงไปยังสวนด้านหลัง พื้นทางเดินหินทรายที่รายรอบด้วยพืชพรรณหลากหลายทอดยาวสู่สวนด้านใน สายน้ำที่ไหลเป็นธารขนาดเล็กกระทบหินที่ไล่ระดับลดหลั่นกันลงมา จากนั้นก็แตกออกเป็นละอองกระจายไปทั่ว บ้างกระเซ็นลงสู่ธารน้ำเบื้องล่าง และบางส่วนกลายเป็นหยาดใสอยู่บนยอดไม้ใกล้ๆ ภาพความงามเล็กๆตรงหน้าฉุดให้ผมยืนชมอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ คุณก้องเกียรติและคุณอัมพร สุขรัตนวงศ์ เจ้าของบ้าน จะเดินออกมาต้อนรับ พลางเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อสวนนี้ว่า
“ถูกใจสวนนี้มาก เพราะมีทุกอย่างที่ตรงใจ ทั้งบ่อปลา ร่มไม้ และน้ำตก ทุกวันอาทิตย์ช่วงเย็นๆ ครอบครัวเราจะจัดกิจกรรมปิ้งย่างบาร์บีคิวบริเวณชานไม้หน้าเรือนด้านนอก ซึ่งในนั้นจะมีครัวเล็กๆให้เราทำอะไรง่ายๆได้สะดวก ที่นั่งก็มีหลายมุม รับประทานไปด้วยนั่งชื่นชมสวนไปด้วย ตอนกลางคืนก็มีไฟสนามเปิด ดูสวยไปอีกแบบ”
มุมนั่งเล่นและรับแขกหน้าบ้านรับกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้า รายล้อมด้วยโมกพวงและไทรเกาหลีตัดแต่งตามแนวรั้ว ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ทางเดินข้างบ้านทอดยาวสู่สวนน้ำตกด้านหลัง นอกจากใช้ไม้ใบตกแต่งให้ความรู้สึกแบบสวนป่าแบบ ทรอปิคัลแล้ว ยังแทรกด้วยไม้ดอกทั้งกล้วยไม้ดิน ไอริสน้ำ และเดหลี ซึ่งปลูกในที่ร่มได้ดี
ซุ้มประตูไม้เปิดออกสู่ท่าน้ำริมคลอง ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับบริบทภายนอกที่สะท้อนวิถีชีวิตแบบไทยๆได้เป็นอย่างดี
อีกสิ่งหนึ่งในสวนที่งดงามไม่แพ้เหล่าแมกไม้และธารน้ำตกก็คือฝูงปลาคาร์ปที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ จึงอดสอบถามถึงความชอบในการเลี้ยงปลาคาร์ปของคุณก้องเกียรติด้วยไม่ได้ “ผมชอบความสวยงามของปลา ยิ่งเป็นปลาคาร์ปที่มีสีสันหลากหลาย ยิ่งชวนให้เราเพลิน ดูได้ทั้งวัน อีกอย่างคือการมีบ่อปลาในบ้านให้ความรู้สึกเย็นสบาย มองไปทางไหนก็ดูร่มรื่นไปเสียหมด”
หลังพูดคุยกันอยู่สักพัก คุณก้องเกียรติและคุณอัมพรชวนเราไปชมบรรยากาศท่าน้ำริมครัวหลังสวน ซึ่งอยู่อีกด้านของประตู คลองสายเล็กๆที่ไหลอย่างเชื่องช้าและเก็บรักษาความเป็นธรรมชาติของพื้นที่เดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ฝั่งตรงข้ามมีต้นไทรริมน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นของสวนฝรั่งรสชาติดีที่คุณอัมพรได้ซื้อมาให้พวกเรารับประทาน เธอเล่าให้ฟังว่าบางคืนในบริเวณนี้ยังมองเห็นหิ่งห้อยได้อีกด้วย เหมือนเป็นของขวัญเล็กๆที่สายน้ำได้มอบให้แก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ
นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพามาชมสวนน้ำตกในบรรยากาศธรรมชาติ แต่คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าทุกครั้งที่เห็นภาพความงดงามของสวนป่าที่จำลองธารน้ำตกนั้นช่วยเติมเต็มความชุ่มเย็นภายในใจของเรา ยิ่งได้เข้าไปสัมผัสจริงๆ นอกเหนือจากความสวยงามที่เห็นด้วยตาแล้ว สายน้ำยังให้ความรู้สึกสงบร่มเย็นไหลกลับสู่ภายในใจของเราทุกคนด้วย
เรื่อง : “ปัญชัช ชั่งจันทร์”
ภาพ : สังวาล พระเทพ
สไตล์ : ภควดี พะหุโล
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับการทำบ่อปลาคาร์ป
ขอบคุณข้อมูลจาก : บ้านและสวน
อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.baanlaesuan.com
