เป็นอีกหนึ่งออฟฟิศที่เราอยากให้ได้ชมกันซึ่งรวมทั้งความทันสมัยต่างๆ เอาไว้ ทั้งยังให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมอีกด้วย บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท ตกแต่งบรรยากาศในสไตล์ลอฟท์ ให้ความรู้สึกสบาย ๆ และเรียบง่าย โดยได้แรงบันดาลใจเกิดจากความตั้งใจของ สุทธิเดช ถกลศรี ประธานกรรมการและประธานบริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด ที่อยากให้สำนักงานแห่งนี้ เปรียบเสมือน “บ้านหลังที่สอง” ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และพื้นที่ร่มรื่นสีเขียว ทำให้เกิดความรู้สึกมีความสุขมากที่สุด ที่ได้ก้าวเข้ามาทำงานในแต่ละวัน 

 

โดยที่นี่เลือกเฟ้นสถานที่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง ตั้งตระหง่านอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ โดยแบ่งเป็นส่วนของสวนต้นไม้ถึง 1 ไร่กว่า คิดเป็น 25%ของพื้นที่ทั้งหมด และพนักงานสามารถเดินทางมาทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถไฟฟ้าบีทีเอส  หรือรถส่วนตัว ซึ่งมีทางด่วนพิเศษสายบางนา และสายพระราม 9 เชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างง่ายดาย   
 

 

หากเอ่ยถึงสิ่งสำคัญที่สร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้อาคารสำนักงานแห่งนี้ ต้องยกให้เรื่องความคิดสร้างสรรค์ ในการออกแบบโครงสร้างตัวอาคารสไตล์ลอฟท์ ที่ออกแบบและตกแต่งอย่างทันสมัย ทั้งยังออกแบบภายนอกอาคารสื่อให้เห็นถึงรวงผึ้ง ซึ่งสอดรับกับรูปโฉมของโรงงานผลิตแห่งใหม่ บนเนื้อที่ขนาดใหญ่กว่า 190 ไร่ ที่จังหวัดปทุมธานี โดยใช้สัญลักษณ์ของรวงผึ้งอันเป็นความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมในการออกแบบเช่นเดียวกัน รวมทั้งให้ความสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมโดยรวม ซึ่งคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราเชื่อมต่อกับ ECO System (ระบบนิเวศวิทยา) เช่น การเลี้ยงผึ้ง ปลูกข้าว ปลูกพืชผักสวนครัว  ปลูกผลไม้ เป็นต้น  รวมถึงการติดตั้งระบบน้ำพ่นบริเวณดาดฟ้า เพื่อฉีดละอองน้ำในการลดภาวะมลพิษในอากาศ 
 

 

นอกจากนี้การเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญเรื่อง “คน” ทำให้มีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ในหมู่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ อย่างกิจกรรมกลุ่มจากตัวแทนพนักงานในคอนเซ็ปต์  “Stay Happiness”  เพื่อคิดค้นกิจกรรมยามว่างอันเป็นประโยชน์ให้กับพนักงาน อาทิ การสอนพนักงานทำสมุดทำมือ  โดยให้พนักงานออกแบบสมุดที่น่ารักด้วยตนเองผ่านอุปกรณ์ที่มีทั้งวัสดุรีไซเคิล และอุปกรณ์ปกติทั่วไป รวมถึงการจัดตกแต่งบริเวณโถงล็อบบี้ชั้นล่าง ให้มีความหลากหลายสไตล์ในแต่ละไตรมาส ซึ่งเป็นกิจกรรมของสินค้าในแต่ละ แบรนด์ในเครือ ที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในช่วงที่ออกสินค้าใหม่ หรือมีกิจกรรมการทางตลาด   

 

รวมทั้งมีกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี ที่ให้พนักงานร่วมด้วยช่วยกันทำ อย่างการปลูกผักสวนครัวบนดาดฟ้า และนำพืชผักสวนครัวเหล่านั้นมาทำประกอบอาหารสำหรับพนักงาน รวมถึงสร้างรากฐานการเป็นกรีน ออฟฟิศที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดพลังงานที่ไม่จำเป็น เช่น ประหยัดน้ำ และไฟฟ้า โดยช่วยกันรณรงค์ร่วมกันเพื่อให้เกิด Green Environment , การคัดแยกขยะ และนำขยะไปทำรีไซเคิลให้เกิดมูลค่าเพิ่ม, การเพิ่มสัดส่วนพื้นที่สีเขียวในบริษัทฯ เป็นต้น และในอนาคตยังมีโครงการที่เร่งสานต่ออย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นปลูกข้าว เลี้ยงผึ้ง และการนำขวดพลาสติกมารีไซเคิลในการทำอิฐบล๊อค สำหรับใช้ภายในองค์กร หรือส่งมอบต่อให้ชุมชนต่อไป 
 

 

อาคารสำนักงานนี้ มีทั้งหมด 3 ชั้น เริ่มจากชั้นที่ 1 ที่ออกแบบให้มีฟังก์ชั่นหลากหลาย ทั้งเป็นบริเวณต้อนรับแขกโถงหน้า , ห้องทำงาน , โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ และห้องประชุมที่มีถึง 7 ห้อง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอก ที่เพลินตาด้วยสีเขียวของสวนสวย และความชุ่มฉ่ำของสายน้ำ ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในการทำงาน หรือการประชุมได้เป็นอย่างดี
 

ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องทำงาน  และชั้นที่ 3 ห้องทำงาน  โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ และ ห้องประชุม 1 ห้อง โดยในส่วนของพื้นที่ทำงาน และโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ พนักงานสามารถใช้พื้นที่ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ 
 

 

ส่วนชั้นบนสุดเป็นชั้นดาดฟ้า ซึ่งจัดสรรให้มีพื้นที่ในการปลูกพืชผักสวนครัว ห้องฟิตเนส และ ลู่วิ่งบริเวณสนามหญ้านั้น พนักงานสามารถใช้พื้นที่ในช่วงเวลาก่อนเข้างาน และ หลังเลิกงาน ตามอัธยาศัย เพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพกายที่แข็งแรงจากอาหารที่ปลอดสารพิษ ทั้งยังได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และสามารถอาบน้ำได้ หลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เนื่องจากทุกชั้นจะมีห้องอาบน้ำไว้ให้บริการอย่างพรั่งพร้อม  

 

นอกจากนี้ภายในบริษัทฯ ยังมีแคนทีน และร้านกาแฟที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานที่ไม่ต้องการออกไปรับประทานอาหารข้างนอก รวมทั้งมีการนำผลผลิตจากพืชผักที่ปลูกบนชั้นดาดฟ้ามาปรุงเป็นเมนูพิเศษฟรีสำหรับพนักงานอีกด้วย