ร้อนแรงเกินใจจะต้านทานสุด ๆ ! สำหรับการมาถึงของเกิร์ลกรุ๊ปยอดนิยมระดับโลก ‘aespa’ (เอสป้า) ที่เชื่อมโยงทุกคนไว้ด้วยกัน พร้อมเปิดประสบการณ์แห่งโลกใหม่ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย aespa LIVE TOUR 2023 ‘SYNK : HYPER LINE’ in BANGKOK (เอสป้า ไลฟ์ ทัวร์ 2023 ‘ซิงก์ : ไฮเปอร์ ไลน์’ อิน แบงค็อก) ที่ถูกจัดขึ้นทั้งหมด 2 รอบการแสดง ในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 (เวลา 18.00 น.) และวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566 (เวลา 16.00 น.) ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งแฟนคลับชาวไทยก็ให้การตอบรับกันอย่างท่วมท้นจนบัตรทั้ง 2 รอบการแสดง จำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว รวมผู้ชมกว่า 10,000 คน ยืนยันถึงพลังความนิยมของ ‘aespa’ ได้อย่างโดดเด่น โดยทางผู้จัดอย่าง บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ได้ยกระดับประสบการณ์พา MY (มาย : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) สัมผัสโลกที่เต็มไปด้วย ‘aespa’ ตั้งแต่ทางเข้าพื้นที่จัดงาน ตั้งแต่โซนถ่ายรูปกับแบนเนอร์ศิลปิน, หัวแท่งไฟขนาดใหญ่ที่ประดับตกแต่งสวยงาม ไปจนถึงโฟโต้ บูธ เพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึก

 

คอนเสิร์ตเริ่มต้นทันทีที่สัญญาณเลเซอร์ถูกส่งออกมาอย่างลึกลับ แล้วเดินทางก้าวข้ามทุกจินตนาการเข้าสู่โลกใหม่พร้อมกัน ด้วยการต้อนรับแบบล้ำอนาคต จากทั้ง ‘nævis’ หรือที่รู้จักกันในฐานะผู้ช่วยในโลกทัศน์ของ aespa และเพื่อนอวทาร์ ‘ae-aespa’ ของแต่ละสมาชิกที่โชว์ลีลาการเต้นสร้างความตื่นตาตื่นใจ ก่อนที่การรอคอยจะสิ้นสุดลง เมื่อ ‘aespa’ ปรากฏตัวอย่างเปล่งประกายสง่างาม ปลุกให้ทุกคนต้องร้องว้าวไปกับเพลงเปิดสุดเร้าใจอย่าง ‘Girls’ ที่เรียกเสียงกรี๊ดถล่มทลายในช่วงโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าของ WINTER (วินเทอร์) ต่อด้วยการสัมผัสถึงพลังตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเธอ ในเพลง ‘aenergy’, ‘I'll Make You Cry’, ‘Savage’ ที่มีท่อนฮุกติดหูและช่วงแดนซ์ เบรกอันเย้ายวนชวนต้องมนตร์ ยิ่งไปกว่านั้น ‘aespa’ จัดเต็มพาผู้ชมเพลิดเพลินกับหลากหลายเวที ที่นำเสนอสีสันทางดนตรีอันไม่มีใครเทียบ ให้สมกับที่ทุกคนตั้งตารอคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกนับตั้งแต่เดบิวต์ของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นเมกะฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างเพลงเดบิวต์ ‘Black Mamba’ และเพลงที่ทั้งฮอลล์ร้องตามกันดังสนั่นไปอีกระดับ ‘Next Level’, เพลงที่เผยเสน่ห์อันน่าหลงใหลอย่าง ‘Illusion’ และ ‘Lucid Dream’, เพลงที่มีพลังบวกอย่าง ‘Dreams Come True’, ‘Life’s Too Short’ และ ‘Lingo’ ตลอดจนเพลงจากมินิอัลบั้มใหม่ ‘MY WORLD’ ที่ประสบความสำเร็จสร้างปรากฏการณ์สุดแปลกใหม่อย่าง ‘Thirsty’, ‘Salty & Sweet’, ‘I'm Unhappy’ ฯลฯ

 

ไม่เพียงเท่านี้ ‘aespa’ ยังแผ่ซ่านความฮอตเหนือขีดจำกัด ในเพลงไตเติลล่าสุด ‘Spicy’ กับท่าเต้นอันเผ็ดแซ่บต่อหัวใจ จากนั้นจึงเพิ่มสีสันความสนุกให้ทุกคนรู้สึกคึกคักโยกย้ายตามกันทั้งฮอลล์ ในช่วงเมดเลย์เพลงจังหวะสดใส ร่วมกับการตกแต่งเวทีด้วยมาสคอตตุ๊กตาเป่าลมและลูกโป่งแสนน่ารัก ในเพลง ‘Hot Air Balloon’, ‘YEPPI YEPPI’ และ ‘YOLO’ สำหรับความพิเศษที่รับชมได้แค่ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คือ เวทีโซโล่เพลงที่ยังไม่เผยแพร่อย่างเป็นทางการของสมาชิก ได้แก่ KARINA (คาริน่า) กับการแสดงเต้นที่เปี่ยมล้นด้วยพลังและจังหวะอันเป็นเลิศในเพลง ‘Menagerie’, WINTER (วินเทอร์) ที่ถ่ายทอดเสียงร้องอันไพเราะละมุนใจผ่านเพลง ‘Lips’, GISELLE (จีเซลล์) กับเพลง ‘2HOT4U’ โชว์ทักษะการแร็ปอันยอดเยี่ยมสะกดผู้ฟัง และ NINGNING (หนิงหนิง) ที่โชว์ไลน์เต้นอันเกินคาดในเพลง ‘Wake up’

 

นอกจากนี้ ‘aespa’ เตรียมเพลงความหมายดี ๆ ที่เข้ากับช่วงท้ายคอนเสิร์ตอย่าง ‘‘Til We Meet Again’ และช่วงอังกอร์ ‘ICU’ ซึ่ง MY ชาวไทยก็ตั้งใจเซอร์ไพรส์ด้วยแฟนโปรเจกต์ซึ้ง ๆ ทั้งการชูป้ายเชียร์ที่มีความหมายว่า “aespa คือสิ่งล้ำค่าสำหรับ MY” “พวกเรามาพึ่งพากันและกันตลอดไปเลยนะ” “จนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง พวกเราจะรอเพียงแค่เธอ” และการแปรกล่องไฟเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ aespa อย่างรูปหัวใจ พระจันทร์ ดวงดาว ผีเสื้อ และคำว่า “MY C U” ตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที คอนเสิร์ตครั้งนี้ได้เชื่อมโยงทุกตัวตน ทั้งแบบออฟไลน์ ‘aespa’ กับ ‘MY’ และแบบออนไลน์ ‘ae-aespa’ มาพบกันอย่างน่ามหัศจรรย์ เพื่อสัมผัสที่สุดแห่งประสบการณ์ ผ่านการแสดงทั้งสิ้น 25 บทเพลง ร่วมด้วยโปรดักชัน เอฟเฟกต์แสง สี เสียง พลุ ที่ยิ่งเสริมสร้างการก้าวข้ามทุกจินตนาการอย่างเหนือชั้น จนทำให้โลกของทุกคนเปลี่ยนไปเป็นโลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร