โดยก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นนักร้องนำของวงพริ้ม วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคที่เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ของไทยอย่าง GMM Grammy และปล่อยเพลงร็อคมากมายที่รวบรวมสตรีมแล้วกว่าหลายล้านครั้ง รวมถึงผลงานแสดงสดบนเวทีขนาดใหญ่ เช่น Big Mountain Music Festival อีกด้วย  

ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เธอถือได้ว่าเป็นเพอร์ฟอร์เมอร์ที่ช่ำชองเวที  อันที่จริงแล้ว ความสามารถเชิงสร้างสรรค์ของเธอยังเป็นที่รู้กันว่าก้าวข้ามไปถึงการออกแบบแฟชั่นและภาพยนตร์ด้วย จากความสามารถของเธอทำให้เธอได้รับบทเป็นตัวละครหลักในภาพยนตร์ไทยเรื่อง 'รักข้ามเลือด' ('Disguise (II)')

Primprao นิยามตัวเองว่าเธอเป็นกิ้งก่าทางดนตรี โดยเธอดึงเอาอิทธิพลเพลงอย่างหลากหลายจาก The 1975, Da Endorphin และ Jay Park มาไว้ด้วยกัน การแสดงเดี่ยวครั้งแรก I Can Show You Love แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของฮิปฮอปที่เคลือบด้วยลูกกวาดของ Doja Cat ในขณะที่ซิงเกิ้ลที่ตามมา Boy, come on over ก็เป็นเพลงแนว electro-pop ที่ขึ้นหิ้งได้ทันที

ส่วนซิงเกิ้ลใหม่ Love When You Love เราจะได้เห็น Primprao ถ่ายทอดเสียงของเธอไปอีกแบบ คราวนี้จะเป็นเพลงแนวนีโอโซลกึ่งแจ๊ซที่ดูสบาย ๆ คล้ายกับยุคต้นของ Corrine Bailey Rae ทำให้เห็นความสามารถรอบด้านเรนจ์เสียงร้อง R&B อันร้อนแรงของ Primprao ได้อย่างชัดเจน

Primprao อธิบายความหมายของเพลงล่าสุดของเธอว่า “เมื่อคุณตกหลุมรักใครซักคนจริง ๆ แสดงว่าคุณรักเขาจนหมดใจ – นั่นคือ ความหมายจริง ๆ ว่าเพลงเกี่ยวกับอะไร  มันเกี่ยวกับการรักทุกอย่างของเขา ทุกสิ่งที่พวกเขาทำ และคุณแค่หวังว่าพวกเขาจะรู้สึกแบบเดียวกันกับคุณ!”

อีกอิทธิพลหนึ่งของ Primprao คือศิลปินที่ท้าทายการจัดประเภทอย่าง Billie Eilish เพลงที่ Primprao จะเปิดตัวต่อไปในอนาคตคงจะได้สำรวจโลกทางดนตรีของเธอให้ครบถ้วน มีตั้งแต่เพลง รักอกหักแบบอะคูสติกบัลลาด ไปถึงเสียงหม่น ๆ บนท้องถนนในเมือง หรือจะเป็นเพลงป๊อปหวานเจี๊ยบ Primprao เป็นหนึ่งในดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2566