นำเสนอเทศกาลดนตรีเค-ป๊อปแท้จริงที่ก้าวข้ามขอบเขตของสถานที่ และผู้ชมทั่วโลกสามารถสนุกไปด้วยกันได้แบบ ‘แถวหน้าสุดในห้องตัวเอง’ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
 

คอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีชื่อว่า ‘SMTOWN LIVE “Culture Humanity”’ (เอสเอ็มทาวน์ ไลฟ์ คัลเชอร์ ฮิวแมนิตี้) ซึ่งถูกจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 11 โมงเช้าไทย และถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งทางแอปพลิเคชัน NAVER V LIVE, YouTube, Twitter, Facebook, TikTok, KNTV ของประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ โดยมียอดสตรีมคอนเสิร์ตสูงถึง 35,830,000 คน จาก 186 ประเทศ ยืนยันให้เห็นถึงความสนใจอันถล่มทลายจากแฟนคลับทั่วโลก ที่สำคัญยังสร้างสถิติผู้เข้าชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับคอนเสิร์ตออนไลน์ของเกาหลี นับเป็นการพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีถึงความเป็นที่นิยม และพลังในระดับโลกของศิลปินค่าย SM

 

ในคลิปเปิดคอนเสิร์ตนี้ คุณ ‘Lee Soo-man’ (อี ซูมาน) โปรดิวเซอร์กิตติมศักดิ์ของ SM ได้ปรากฏตัวพร้อมเผยแพร่ข้อความแห่งความหวังว่า “ดนตรีไม่มีขอบเขตครับ พวกเราสามารถสื่อสารกันอย่างไร้ภาษาได้ผ่านดนตรี ดนตรีสามารถปลอบโยนและรักษาแต่ละคน หรือ พวกเราทุกคนได้ครับ SM และผมกำลังพยายามที่จะนำเสนอดนตรีแบบนั้นให้กับทุกคนครับ” อีกทั้งยังย้ำถึง ‘Humanity’ (หมู่มวลมนุษยชาติ) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรากฐานระบบการผลิตของ SM อย่าง CT (Culture Technology) ว่า “คอนเสิร์ตฟรีในวันนี้ คือ เพื่ออวยพร และเฉลิมฉลองกับหมู่มวลมนุษยชาติแฟนคลับของ SMTOWN ครับ ขอให้ทุกคนมีเมตตา นอบน้อม และเป็นความรักให้กับวันที่ดีกว่าในอนาคตนะครับ”
 

 

ต่อจากนั้น มาพบกับสุดยอดไลน์อัพศิลปินที่โชว์หลากหลายเวทีดึงดูดทุกสายตาอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วย NCT DREAM (เอ็นซีที ดรีม) เพลง ‘Ridin’’, WayV (เวย์วี) เพลง ‘Take Off’, NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) เพลง ‘Punch’, Red Velvet (เร้ด เวลเว็ท) เพลง ‘Bad Boy’ และ ‘Peek-A-Boo’, KAI (ไค) เพลง ‘Mmmh’ และ ‘Reason’, TAEMIN (แทมิน) เพลง ‘Criminal’ และ ‘IDEA:理想’, SUPER JUNIOR-D&E (ซูเปอร์จูเนียร์ ดีแอนด์อี) เพลง ‘Growing Pains’, SuperM (ซูเปอร์เอ็ม) เพลง ‘100’, BAEKHYUN (แบคฮยอน) เพลง ‘Candy’, KANGTA (คังตะ) เพลง ‘Cough Syrup’ ฯลฯ
 

 

นอกจากนี้ ยังมีเพลงฮิตอีกมากมาย อาทิ aespa (เอสป้า) กับเพลง ‘Black Mamba’, NCT DREAM เพลง ‘Déjà Vu; 舞代路’, NCT U (เอ็นซีที ยู) เพลง ‘Make a Wish (Birthday Song)’ และ ‘90’s Love’, Red Velvet เพลง ‘Psycho’, SuperM เพลง ‘One (Monster & Infinity)’, TAEYEON (แทยอน) เพลง ‘Four Seasons’ และ ‘Happy’ และ ‘What Do I Call You’, SUPER JUNIOR (ซูเปอร์ จูเนียร์) เพลง ‘SUPER CLAP’ และ ‘2YA2YAO!’, TVXQ! (ทงบังชินกิ) เพลง ‘The Chance of Love’ และ ‘Dream’ ฯลฯ ไปจนถึงการแสดงร่วมกันของศิลปิน อาทิ BAEKHYUN เพลง ‘UN Village (feat.NCT MARK)’, GINJO เพลง ‘The Riot (feat.WayV TENxXIAOJUN)’, Raiden เพลง ‘Yours (feat.aespa WINTER)’, IMLAY เพลง ‘Asteroid (Feat.WayV YANGYANG)’ ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 39 เพลงที่มาสร้างความร้อนแรงให้กับผู้ชม

 

ไม่เพียงเท่านี้ ได้มีการปล่อยคลิปประกาศการกลับมาแบบครบวงของ SHINee (ชายนี่) ในปี 2564 รวมถึงการใช้เทคโนโลยี AR และเอฟเฟกต์กราฟิกมาเพิ่มเสน่ห์ในการรับชม อาทิ เพลง ‘Wake Off’ ของ WayV ที่มีเครื่องบินบินออกมาราวกับจะทะลุจากหน้าจอ, เพลง ‘Better Days’ ของ SuperM ที่มีห้องเรือนกระจกในบรรยากาศสุดอบอุ่น, เพลง ‘When We Were Us’ ของ SUPER JUNIOR-K.R.Y ที่มาพร้อมป่าสีน้ำเงิน, เพลง ‘Keep Your Head Down’ ของ TVXQ! กับฉากซากปรักหักพังที่ไฟลุก และเฮลิคอปเตอร์, เพลง ‘Kick It’ ของ NCT 127 ที่มองเห็นมังกร ฯลฯ

 

โดยหนึ่งในศิลปินที่ร่วมแสดงอย่าง TAEYEON (แทยอน) จากวง Girls’ Generation (เกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น) ได้พูดให้กำลังใจแฟนเพลงทั่วโลกอย่างอบอุ่นว่า “ฉันคิดว่าเราสามารถคิดในทางบวกได้ว่า เป็นปีที่เราสามารถรู้สึกได้เลยว่ากิจกรรมทางสังคมนั้นสำคัญขนาดไหน และสามารถใช้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้นค่ะ เนื่องจากโควิด 19 เลยทำให้ทุกคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากและไม่ราบรื่น แต่คอนเสิร์ตแบบออนไลน์ได้กลายมาเป็นเทรนด์ เลยไม่ต้องต่อสู้กับการกดบัตร ‘SMTOWN LIVE’ และทุกคนในโลกนี้ยังสามารถชมการแสดงได้ด้วยค่ะ”

 

ส่วนช่วงท้ายคอนเสิร์ต ก็มีคลิปเพลง ‘Hope’ ที่ทุกศิลปินได้มาร้องเพลงให้กำลังใจ ความหวัง และสวัสดีปีใหม่ ตามด้วยโชว์ EDM สุดมันส์ ซึ่งเหล่า DJ ที่น่าจับตามองอย่าง Raiden (เรเดน), GINJO (คินโจ), IMLAY (อิมเลย์) ได้รีมิกซ์เพลงฮิตของศิลปิน SM เป็นการปิดท้ายอย่างสมบูรณ์แบบ
 

ทั้งนี้ คุณ Lee Sung-Soo (อี ซองซู) และคุณ Tak Young-Joon (ทัก ยองจุน) ผู้บริหารของ SM ทั้งสองท่านได้เปิดเผยถึงความตั้งใจที่วางแผนเอาไว้ว่า “K-Pop ไม่ได้เป็นเพียงแค่ดนตรี แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คน และสื่อกลางที่เราสามารถสื่อสาร แบ่งปันความรู้สึกของเราครับ เมื่อเราลาปี 2563 อันแสนเหน็ดเหนื่อยเพราะการแพร่ระบาดของโควิด 19 และเข้าสู่ปีใหม่นี้ เราอยากให้กำลังใจแฟน ๆ K-Pop ทั่วโลกที่มีช่วงเวลาอันยากลำบาก ดังนั้น เราเลยเตรียมคอนเสิร์ตฟรีครั้งนี้ เพื่อมอบพลังและความหวังอันสดใสสำหรับอนาคตที่ดีกว่าเดิมครับ”