Kygo ดีเจ/โปรดิวเซอร์ระดับโลกขอนำเสนอรุ่งอรุณแบบใหม่ผ่านอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของเขา Golden Hour ที่ประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมดจำนวน 18 เพลง รวมถึงซิงเกิลที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้อย่าง The Truth’ กับ Valerie Broussard, Lose Somebody ฟีทเจอริ่งวงดนตรีชื่อดัง OneRepublic, Freedom’ ฟีทเจอริ่ง Zak Abel, I’ll Wait ฟีทเจอริ่ง Sasha Sloan, Like It Is ซิงเกิลเปิดต้นปีนี้กับ Zara Larsson และแร็ปเปอร์ฝีมือดี Tyga, และย้อนไปถึงซิงเกิลแรกสุดของอัลบั้มนี้เมื่อปีที่แล้ว Higher Love กับตำนานอย่าง Whitney Houston ซึ่งในปีที่แล้วได้ทำสถิติมียอดสตรีมมิ่งทั้งภาพและเสียงรวมกันมากกว่า 651 ล้านครั้ง

ท่ามกลางการทัวร์อย่างไม่หยุดหย่อนในปี 2018 Kygo เริ่มรวบรวมสิ่งที่จะกลายมาเป็นอัลบั้ม Golden Hour และระหว่างที่เขียนเพลงตลอดปีนั้น Kygo ร่วมมือกันกับ Sony เปิดค่ายเพลงของเขาเองที่มีชื่อว่า Palm Tree Records และเริ่มรวบรวมศิลปิน นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์
 

Petey, Nick Furlong, Valerie Broussard, Dreamlab, และ Tom Martin เป็นส่วนหนึ่งใน’ครอบครัว’นี้ เป็นสมาชิกที่มีส่วนร่วมกับการทำอัลบั้มนี้

“ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้ทำงานกับศิลปินและนักแต่งเพลงที่ผมชอบในอัลบั้ม Golden Hour” Kygo เล่า

“มีเพลงบางส่วนในอัลบั้มที่ผมได้ร่วมฟีทเจอริ่งกับทีมของผม เหล่าศิลปินที่ผมเชื่อในตัวพวกเขา ทำงานกับพวกเขาทำให้อัลบั้มนี้มันพิเศษครับ”

Golden Hour ยังทำให้ได้เห็นการออกจากกรอบเดิมๆของ Kygo อย่างในเพลง Like It Is ฟีทเจอริ่ง Zara Larsson และ Tyga ก็ได้แสดงให้เห็นการผสานดนตรีทรอปิคัลเฮ้าส์เข้ากับท่อนแร็ป ซึ่งด้วยเมโลดี้ของ Kygo, เสียงกลองล่องหน, และเสียงเปียโนอันละเอียดอ่อน เข้ากันได้ดีกับเสียงของ Zara Larsson และท่อนแร็ปของ Tyga ที่ค่อยๆแทรกเข้ามาอย่างเนิบนาบ

ในขณะเดียวกัน Kygo ก็ได้กลับมาร่วมงานกับ Sasha Sloan ในเพลงทรอปิคัลเฮ้าส์ที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอย่าง I’ll Wait และยังมีเพลง Freedom กับ Zak Abel ที่ผสานซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Kygo เข้ากับเสียงสูงของ Abel ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ Tom Martin ยังได้ร่วมเขียนเพลง To Die For และ Valerie Broussard ก็ได้ร่วมเขียนเพลง Don’t Give Up On Love และ The Truth เพลงที่เธอร่วมร้องอีกด้วย เพลงทั้ง 18 เพลงจากอัลบั้ม Golden Hour แสดงถึงแนวคิดและความคิดสร้างสรรค์ของ Kygo
 

“ในทุกๆครั้งที่ทำอัลบั้มหรือเพลงใหม่ ผมพยายามพลักตัวเองไปจนสุดขีดจำกัดของตัวเองเพื่อที่จะได้พัฒนาและทดลองแนวคิดใหม่ๆ” Kygo กล่าว “ผมบรรยายไม่ถูกเลยว่าผมภูมิใจกับ 18 เพลงนี้แค่ไหน มันยากมากที่จะเลือกแค่ 18 เพลง ในอัลบั้มนี้มีเพลงที่มีจังหวะไวขึ้นมากกว่าในอัลบั้มก่อนแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์ของผม”