เชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ของคนไทย  พร้อมเป็นกำลังใจให้บุคคลากรทางการแพทย์  ที่ต้องทำงานอย่างหนัก อยู่  ณ ขณะนี้ 
 

                       
บี น้ำทิพย์  “บีเชื่อว่าหลายคนให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ เป็นอย่างดีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการกักตัว “อยู่บ้าน” แต่ก็อาจจะมีหลายคนที่เริ่มรู้สึกเบื่อที่ต้องอยู่บ้านนานๆ ก็อยากจะขอให้ทุกคนอดทนนะคะ  ให้คิดซะว่าเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้มีโอกาสทำอะไรเพื่อตัวเอง ให้มองทุกอย่างเป็นเรื่องดีๆ เข้าไว้  หมั่นดูแลตัวเอง ใส่ใจสุขภาพ อาหารการกิน  ที่สำคัญอยากให้นึกไว้เสมอค่ะ  ว่าความลำบากของเราทุกคนที่ต้องเผชิญอยู่นี้  เทียบไม่ได้เลย กับความลำบากของคุณหมอ พยาบาล  รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน  ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยับยั้งเชื้อไวรัสนี้   ซึ่งพวกเค้าต้องเสียสละ  ทำงานกันอย่างหนัก  แทบไม่ได้พัก  เพื่อควบคุมให้เชื้อไวรัสนี้ลดลงอย่างเร็วที่สุดก็อยากจะขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนจากใจจริงค่ะ”
 

แก้ม วิชญาณี “จากสถานการณ์ที่ทุกคนบนโลกกำลังเจออยู่ตอนนี้  ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าจะจบลงเมื่อไหร่ แต่แก้มว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน  อย่างคุณแม่ของแก้มเองเป็นพยาบาล  แก้มทราบดีเลยค่ะ   ว่าบุคลากรทางการแพทย์  ท่านต้องทุ่มเทต่อหน้าที่  และทำงานต่อสู้เพื่อผู้ป่วยขนาดไหน  บางท่านได้นอนแค่วันละ 2-3 ชม. เท่านั้นเอง  ซึ่งวิธีง่ายๆ ที่พวกเราจะเป็นกำลังใจให้เหล่าคุณหมอ พยาบาลได้  คือการ “อยู่บ้าน” และส่งกำลังใจไปให้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ”

 

ไบร์ท  นรภัทร  “ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-19  สิ่งแรกที่ผมนึกถึงเลย  คือ ครอบครัว  ช่วงนี้ไม่มีการถ่ายละคร ผมก็อยู่บ้านทุกวัน  รกๆ อาจจะมีเหงาบ้าง  แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ผมมีโอกาสได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อยากให้ทุกคนใช้เวลานี้อยู่กับบ้านอย่างมีความสุขที่สุด   ดูแลตัวเอง  อยู่กับบ้าน  ไม่พยายามออกไปเสี่ยงรับเชื้อที่ไหน  แค่นี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการที่จะช่วยลดการแพร่เชื้อ  และลดภาระของแพทย์, พยาบาล   เชื่อว่าอีกไม่นานโรคนี้ก็จะหายไป  และโลกของเราก็จะกลับมายิ้มได้อีกครั้งแน่นอนครับ”
 

เจษ  เจษฎ์พิพัฒ “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ทีมแพทย์ , ทีมพยาบาล ทุกคนเลยที่ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างสุดกำลัง  ผมในฐานะประชาชนคนนึงที่ติดตามข่าวสารอยู่ทุกวัน  ก็รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกคนมากๆครับ ที่ต้องออกไปเสี่ยงทำหน้าที่รักษาผู้ป่วย  ผมจึงคิดว่าการที่เราปฎิบัติตามในสิ่งที่คุณหมอขอร้อง คือการ เว้นระยะห่างจากสังคม ลดการพบเจอกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายด้วยการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” นั่นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน เพื่อตัวเราเอง และเพื่อชาติครับ”     

 

กั้ง กรณ์  “การเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันนะครับ งดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็นจริงๆ  งดสังสรรค์  งดปาร์ตี้  ส่วนตัวกั้งเองตอนนี้ก็ไม่ได้ออกจากบ้านเลยครับ ซึ่งตอนนี้ครอบครัวของผม ก็อยู่ที่เยอรมัน ยังกลับมาไม่ได้  ก็รู้สึกเป็นห่วงคุณพ่อ คุณแม่ มากๆ  ผมจึงเข้าใจดีเลยว่าทุกความร่วมมือจากทุกคนบนโลกใบนี้  มันมีความสำคัญในการยับยั้งเชื้อไวรัสนี้จริงๆ  และผมเองก็มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจบุคลาการทางการแพทย์  ด้วยการบริจาคเงินสมทบทุน  เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลนอีกมาก  ซึ่งเงินคนละเล็กละน้อยตรงนี้  เมื่อรวมกันแล้ว ก็จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้พวกเราผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ”

                  

 

ตงตง กฤษกร  “สิ่งที่ผมจะช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์ และพยาบาลได้ในตอนนี้  คือ งดกิจกรรมนอกบ้านทั้งหมด หันมาทำกิจกรรมในบ้านแทน เช่น ออกกำลังกาย  ไม่ต้องไปฟิตเนต  สุขภาพก็แข็งแรงได้เหมือกัน  หรือว่างๆ ผมก็รดน้ำต้นไม้ จัดบ้าน ถือเป็นการผ่อนคลาย และทำให้บ้านสวยงามน่าอยู่ขึ้นด้วย ซึ่งการอยู่บ้านเฉยๆ แค่นี้  ก็ถือเป็นการช่วยชาติ ในการควบคุมไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นด้วยครับ”   

           

มารี  เบรินเนอร์  “อยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือ  ช่วยกันฝ่าวิกฤตของชาติครั้งนี้ด้วยการ “อยู่บ้าน” เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค  ส่วนตัวมารีเอง  ถ้ามีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน ก็จะใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง  เว้นระยะห่างจากคนที่เราต้องพบเจอ  รวมทั้งพยายามใช้เวลานอกบ้านให้น้อยที่สุด  ทำธุระเสร็จแล้ว ก็รีบกลับบ้าน  และอาบน้ำสระผมทันที   รวมทั้งออกกำลังกายมากขึ้น  เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงค่ะ   ซึ่งถ้าพวกเราร่วมมือร่วมใจกัน  ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงได้ ก็เท่ากับเป็นการช่วยลดภาระการทำงานของหมอ , พยาบาล ที่ต้องทำงานหนักมากๆ ด้วยค่ะ สุดท้ายก็อยากจะขอส่งกำลังใจไปให้บุคลากรทางการแพทย์  และ เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนด้วยค่ะ”                  

                                             

มะปราง  อลิสา “มะปรางคิดว่า  สิ่งที่ประชาชนอย่างเราจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้  คือการ “อยู่บ้าน”  ดูแลตัวเอง งดการสังสรรค์  งดการรวมกลุ่ม เพราะนอกจากจะเป็นการลดความเสี่ยงเพื่อตัวเราเองแล้ว การที่เราดูแลตัวเองอย่างดี ไม่เจ็บป่วย เราก็ไม่ต้องไปเป็นภาระให้กับคุณหมอ ที่กำลังทำงานกันอย่างหนัก จนแทบไม่ได้พักกันเลย ดังนั้นการช่วยชาติที่ง่าย และดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ คือการ “อยู่บ้าน” ช่วยกันอวสานโควิด  ให้จบเร็วขึ้น  ด้วยพลังความร่วมมือของพวกเราทุกคนนะคะ” 

 

หมอเน๋ง  ศรัณย์ “ตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้นทุกวันนะครับ  ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ ต้องเสียสละทั้งแรงกาย และเวลา  เพื่อช่วยกันยับยั้ง รักษาให้โรคนี้ลดการระบาดลงโดยเร็ว  มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกคือ   อยากจะขอให้บอกข้อมูลที่เป็นความจริงกับแพทย์ให้ละเอียด  โดยเฉพาะผู้ที่รู้ตัวอยู่แล้วว่าไปในสถานที่สุ่มเสี่ยงมา  เพื่อความถูกต้อง รวดเร็วในการตรวจรักษาของตัวคุณเอง  และที่สำคัญคือ  เป็นการป้องกันการติดเชื้อของแพทย์ด้วยครับ  เพราะถ้าหากคนไข้ไม่ยอมพูดความจริงเมื่อมีหมอ 1 คนได้รับเชื้อไป จะต้องมีบุคลากรทางการแพทย์อีกมากมาย  ที่ต้องหยุดปฎิบัติงาน เพื่อกักตัวดูอาการตามไปด้วยอีกจำนวนมากเลยครับ  ซึ่งแน่นอนว่าจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกแน่นอน  ยังไงก็ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือด้วยวิธีง่ายๆ คือการ ดูแลตัวเอง “อยู่บ้าน” เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคครับ” 

 

พ้อยท์  ชลวิทย์  “สำหรับมาตรการ “กักตัว อยู่บ้าน” ผมคิดว่าเป็นหน้าที่หลักของประชาชนอย่างหนึ่งเลยครับ  หากเปรียบคุณหมอ คุณพยาบาล เป็นนักรบด่านหน้าที่ต้องออกไปทำสงคราม ต่อสู้กับโรคร้าย พวกเราทุกคนที่เป็นเหมือนทัพหลังที่ควรให้การสนับสนุนในสิ่งที่คุณหมอร้องขอ คือการ “อยู่บ้าน” เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้  รวมทั้งการช่วยกันบริจาคเงินเล็กๆ น้อยๆ  เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพให้บุคลากรทางการแพทย์  หรือเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนอื่นๆ ได้ใช้ปฏิบัติงานกัน เหล่านี้ก็เป็นกำลังใจอีกอย่างใจอย่าง  ที่เราจะสามารถส่งไปให้ฮีโร่ของเราทุกคนได้  ซึ่งผมมั่นใจว่าเราทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอนครับ”