13 ปีที่รอคอย ARASHI คัมแบ็คไทยแลนด์ แถลงข่าวโปรเจกต์ใหญ่ JET STORM เปิดช่องทางออนไลน์เข้าถึงแฟนคลับทั่วโลก
หอบพายุลูกใหญ่พัดพาความคิดถึงมาสู่แฟนๆชาวไทยในรอบ 13 ปี สำหรับบอยแบนด์แห่งชาติญี่ปุ่น ARASHI ที่บินตรงมาแถลงข่าวโปรเจกต์ยักษ์ JET STORM
ภายในงานแถลงข่าว ณ ห้อง SAPPHIRE 203, IMPACT Forum ทั้ง 5 หนุ่มอาราชิ อันประกอบด้วย ด้วย โอโนะ ซาโตชิ (Ono Satoshi), ไอบะ มาซากิ (Aiba Masaki), ซากุราอิ โช (Sakurai Sho), นิโนะมิยะ คาซึนาริ (Ninomiya Kazunari) และ มัตซึโมโต้ จุน (Matsumoto Jun) ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางเสียงต้อนรับจากแฟนๆ และสื่อมวลชนที่ให้การต้อนรับพวกเขาอย่างล้นหลาม พวกเขาแนะนำตัวและพูด “สวัสดีครับ” เป็นภาษาไทย ซึ่งก่อนจะเริ่มต้นงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พวกเขาได้พูดถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 13 ปี
ซากุราอิ โช : ไม่ได้พบกับทุกคนนานแล้วตั้งแต่ปี 2006 ทราบว่าแฟนๆที่ประเทศไทยได้บินไปดูคอนเสิร์ตพวกเราที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย ผมเองก็มีเพื่อนอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็จะทราบว่าที่เมืองไทยมีแฟนๆ ของอาราชิอยู่ วันนี้ก็อยากจะใช้เวลาที่สนุกกับทุกคนครับ
โอโนะ ซาโตชิ : ไม่ได้พบกับทุกคนมานานแล้วตั้งแต่ปี 2006 ครับ เรามีโอกาสน้อยมากที่จะได้เดินทางมาพบกับทุกคนพร้อมกันทั้ง 5 คนแบบนี้ วันนี้ก็รู้สึกยินดีที่ได้มาพบกับทุกท่านอีกครั้งนึงครับ จำได้ว่าครั้งที่แล้วก็ได้ดอกไม้แบบนี้เหมือนกัน ครั้งนี้ได้ดอกไม้อีกครั้งทำให้คิดถึงอดีตเลยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ
มัตซึโมโต้ จุน : ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ วันนี้มีคนที่เคยมาหาตอนปี 2006 มาด้วย ครั้งที่แล้วเรามาถึงเมืองไทยกันตอนเช้าตรู่ก็มีแฟนๆ มากมายมารอรับพวกเรา วันนี้ก็เหมือนกันที่มีทุกท่านมารอรับ รู้สึกดีใจและอบอุ่นมากครับที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งครับ
ไอบะ มาซากิ : ผมไอบะครับ ครบรอบ 20ปี อาราชิ ยินดีที่ได้พบทุกท่านครับ สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่อาราชิเดินทางมาครบทั้ง 5 คน รวมถึงที่เคยเดินทางมางานส่วนตัว และเดินทางมาเที่ยวด้วย เป็นประเทศที่พวกเราชื่นชอบกันมากๆ ผมเคยเดินทางมาทำสกู๊ปเกี่ยวกับสวนสัตว์ด้วยครับ ตอนนั้นมีสวนสัตว์ที่อยู่บนดาดฟ้าในห้างสรรพสินค้า กอริลล่าเมืองไทยน่ารักมากครับ วันนี้ได้มาครบทั้ง 5คน ในโอกาสครบรอบ 20 ปี ก็รู้สึกยินดีมากๆ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับผม
นิโนะมิยะ คาซึนาริ : ขอบคุณทุกท่านนะครับ ผมทราบมาว่าหลายท่านได้แรงบันดาลใจในการเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นจากการที่ฟังเพลงของค่ายจอห์นนี่ ก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้มาพบกับทุกท่านอีกครั้งนึงในรอบ 13 ปี ก็อาจจะนานซักนิดนึงนะครับที่ไม่ได้เจอกัน วันนี้เราก็จะมาโชว์ให้เห็นว่าอาราชิเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว วันนี้เราก็จะมาแนวผู้ใหญ่ๆ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
หลังจากนั้น อาราชิ ได้พูดถึงการแถลงข่าวการเปิด ช่องทางออนไลน์ Social Network Service ทั้ง 5 ช่องทางของพวกเขา คือ Instagram, Weibo, TikTok, Twitter และ Facebook ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนๆ รวมถึงการปล่อยดิจิทัลซิงเกิลของวงทั้งหมด 65 ซิงเกิลและซิงเกิลล่าสุดอย่าง “Turning Up” สู่แอปพลิเคชั่นออนไลน์ให้แฟนๆได้เข้าไปดาวน์โหลดฟังกันอย่างใกล้ชิด เพราะถึงแม้พวกเขาจะตัดสินใจยุติกิจกรรมของวงแต่ก็ยังอยากให้แฟนๆ ได้มีความสุขกับเพลงของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้พวกเขายังพูดถึงโปรเจกต์ JET STORM ที่พวกเขาได้สร้างปรากฏการณ์บินตรงไปหาแฟนๆ ถึง 4 ประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ อย่างคับคั่ง โดยเฉพาะที่ประเทศไทย ที่พวกเขารู้สึกว่าแฟนๆ ตั้งหน้าตั้งตารอคอยพวกเขาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังพูดถึงคอนเสิร์ตของพวกเขาที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2020 ที่จะจัดขึ้นที่โตเกียวและปักกิ่ง อีกด้วย
หลังจากนั้นคือช่วงเวลาที่แฟนๆ ทุกคนรอคอย แม้จะมีเวลาไม่มากมาย แต่สำหรับความสเปเชียลในรอบ 13 ปี พวกเขาทั้ง 5 คนก็ได้ฝึกซ้อมภาษาไทยมาฝากแฟนๆ ชาวไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น “หนึ่ง สอง ซั่ม ไม่เป็นไรๆ” “พยายาม!” “ต้มยำกุ้ง” “ขอเสียงหน่อยครับ” และ “สาวไทยน่ารักมากครับ” ซึ่งประโยคหลังเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ไทยได้ไม่น้อย เป็นการจบงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมจนหายคิดถึง คุ้มค่ากับระยะเวลา 13 ปีที่รอคอย
และเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมแถลงข่าว 5 หนุ่ม อาราชิ ก็ได้มอบความสุขส่งท้ายให้กับแฟนๆ ด้วยการจัดกิจกรรมมีตติ้งเล็กๆ ให้กับแฟนๆ มากกว่า 2 พันคน ที่มารอพวกเขาอย่างเป็นระเบียบที่ด้านหน้าสถานที่จัดงานแถลงข่าว เรียกเสียงกรี๊ด รอยยิ้ม ความอิ่มเอมใจทำเอาสถานที่จัดงานอบอวลไปด้วยความสุขอย่างล้นทะลักเลยทีเดียว
งานนี้ต้องของคุณแฟนๆ ของ 5 หนุ่ม ARASHI อย่างมากที่มาต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น และเนืองแน่น และที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือหัวเรือใหญ่อย่าง “AVALON LIVE” (อาวาลอน ไลฟ์) ที่ทำให้มีงานดีๆ แบบนี้ แฟนๆ ชาวไทย สามารถเกาะติดความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ทาง Facebook.com/avalonlive และ Twitter @OfficialAvalon หลังจากนี้จะมีโปรเจ็กต์ดีๆ ให้เหล่าชาว J-POP และ J-ROCK ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน