เราอยากเป็นฟันเฟืองเล็กๆ! เปิดใจ 'SBFIVE' บอยแบนด์ไทย ที่จะทำให้ T-POP กลับมาโด่งดัง
เพิ่งจะปล่อยซิงเกิ้ลที่ 3 “Superboy”กันมาหมาด ๆ สำหรับ “SBFIVE” (เอสบีไฟว์) 5 หนุ่มบอยแบนด์สัญชาติไทย จากค่าย Starhunter studio ที่ไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังไกลถึงหลากหลายประเทศทั่วเอเชีย
นำทีมโดย บาส-สุรเดช , คิมม่อน-วโรดม , คอปเตอร์-ภาณุวัฒน์ , เต้-ดาวิชญ์ และ ตี๋-ธนพล ที่งานนี้ได้แอบกระซิบกับเราว่ากำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่ประเทศไทยครั้งแรกปลายปีนี้แล้วด้วย บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด!
หล่อ น่ารัก ทะเล้น คุยเก่งและมีความสามารถ สำหรับ “SBFIVE” ที่งานนี้ TTM VARIETY ก็ไม่พลาดได้โอกาสที่สุดแสนจะ EXCLUSIVE ไปสัมภาษณ์หนุ่ม ๆ มาให้ แฟนๆ ได้ทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นทั้งศิลปินและนักแสดงจะต้องใช้ความพยายามกันมากแค่ไหน ต้องเหนื่อยกันเท่าไหร่ กว่าจะได้รับความนิยม และกระแส T-POP จะเป็นอย่างไรต่อไป รับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักพวกเขากันแน่นอน
ซิงเกิ้ลล่าสุดเพลงที่ 3 “Superboy” และคอนเสิร์ตใหญ่ปลายปี
โดยทั้ง 5 หนุ่มได้เล่าให้เราฟังเกี่ยวกับเพลงซิงเกิ้ลล่าสุดและคอนเสิร์ตใหญ่ในเดือนธันวาคมว่า ซิงเกิ้ลที่ 3 พวกเราตื่นเต้นมาก ที่จะได้เขียนเพลงใหม่ๆ มาให้แฟน ๆ หรือว่าชาวไทยเองที่ยังไม่รู้จัก SBFIVE นะครับ ได้มาฟังกัน เพราะว่าจริง ๆ แล้ว พวกเราก็คือเดินสายต่างประเทศกันตลอดเวลา ซึ่งทำให้บางทีเราไม่ได้โฟกัสงานที่ไทยพอสมควรครับ ภายในปีนี้เองเราก็อยากให้ชาวไทยได้รู้จักเรามากขึ้น ก็เลยมีการเขียนเพลง “Superboy” ที่จะเป็นโปรเจ็คพิเศษแล้วก็ปลายปีนี้ก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่จัดที่ไทยนะครับเพื่อให้แฟน ๆ ได้รู้จักพวกเราครับ
“ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำก็คือเราก็จะทยอยปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ ครับ นอกจากเพลง “Superboy แล้วก็จะมีเพลงของ 5 คนออกมา รวมถึงเพลงเดี่ยวของแต่ละคน ที่ทุกคนจะได้โชว์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ฉะนั้นเนี่ยในปีนี้จะได้เห็นผลงานของ SBFIVE เยอะแยะมากมาย สิ้นปีก็จะได้มีคอนเสิร์ตแล้วก็สนุกสนานกัน แต่ว่าในปีนี้เองพวกเราก็ยังไปเอเชียทัวร์อยู่เหมือนเดิม ซึ่งจริงๆ เราเริ่มแล้วที่พม่าครับ ซึ่งพม่าเป็นครั้งที่ 2 ที่เราได้ไปก็แฟนคลับตอบรับดีมาก เพราะว่าเราเล็งเห็นว่าครั้งแรกเราไปในฐานะของการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเถ้าแก่น้อย แล้วแฟนคลับที่พม่าเขาเยอะมาก คือเราไปอีเวนท์ในห้าง ห้างประมาณ 4 ชั้นครับ คนเต็มทุกชั้นเพื่อส่องเราแค่นั้น เราก็เลยรู้สึกว่าแฟนคลับพม่าเรียกร้อง คิดถึงมาก เราก็เลยไปจัดที่แรกเลยที่พม่าครับ แล้วสถานที่ต่อไปก็คือเกาหลี สิงค์โปร์ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ ก็คือเราจะไปทั่วเอเชียเหมือนเดิมครับผม เหมือนทุกปีที่เราทำเลย ”
T-POP VS K-POP
เป็นบอยแบนด์ไทยที่ไปโด่งดังไกลถึงต่างประเทศแบบนี้ แน่นอนว่าต้องมีข้อเปรียบเทียบระหว่างไอดอลไทยกับไอดอลเกาหลีอยู่แล้ว “คือต้องมองต่างกันครับ เหมือนไอดอลเกาหลีเราก็มองเขาเหมือนเป็นไอดอลของเราอีกทีนึงอยู่แล้ว เพราะว่าเราเองก็อยากจะเก่ง อยากจะมีความสามารถเหมือนอย่างไอดอลเกาหลี ซึ่งเรายอมรับจริงๆ ว่าเขาเก่งมากๆ แต่ว่าอย่างเราเริ่มมาจากที่เราไม่ได้ร้องเพลงเก่งเลย เราไม่ได้เต้นเก่งเลย เราเป็นนักแสดงมาก่อนครับ แล้วก็ค่อยมาฟอร์มเป็น SBFIVE ขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง เราก็จะใช้ความพยายามของเราครับ คือเราเชื่อในศักยภาพของคนไทยที่ว่าคนไทยมีความพยายามและความตั้งใจครับ ”
“คือพวกเรา SBFIVE อย่างน้อยๆ เราก็อยากเป็นฟันเฟืองเล็กๆ นะครับ ช่วยขับเคลื่อนวงการไทยป็อบหรือว่า T-POP ให้โด่งดังมากขึ้น อย่างเพลง “Superboy” ก็จะเป็นเพลงที่มี ทำนองที่ละหม้ายคล้ายคลึงกับแนวเพลงยุค 90’s ซึ่งเป็นยุค T-POP หรือว่า ไทยเป็อบ เฟื่องฟูนะครับ เรามีความรู้สึกว่าอยากจะเอาดนตรีแบบเดิมที่ทุกคนเคยคุ้นเคยกันนะครับกลับมาทำอีกครั้ง เพื่อให้ T-POP กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งนึง SBFIVE คาดหวังว่าอย่างน้อย ก็ยังเป็นส่วนนึงเล็ก ๆ ที่อยากให้มีผลงานของเพลงป็อบกลับมาโด่งดัง บอยแบนด์กลับมาโด่งดังอีกครั้งนึงครับ ”
ตัวตนและนิสัยใจใคอของ 5 หนุ่ม SBFIVE
หลังจากได้พูดคุยกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว คราวนี้เรามาทำความรู้จักนิสัยใจคอของหนุ่ม ๆ กันบ้างดีกว่า
บาส-สุรเดช “ก็เป็นคนกวน ๆ เป็นคนเป็นกันเอง เข้าถึงง่ายครับผม แบบเฮฮากับทุกคนแล้วก็เป็นคน เฟรนลี่มากๆครับ คือผมคุยได้กับทุกคนเลย”
ตี๋-ธนพล “เห็นคนอื่นบอกว่าตี๋เป็นคนสองบุคลิกครับ จริงๆ แล้วโดยส่วนตัวคือถ้ายังไม่รู้จักใครก็จะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ไม่พูดไม่จา อะไรแบบนี้ครับ แต่ถ้าได้รู้จักแล้วก็บอกเลยว่า เป็นคนร่าเริง และก็เฮฮา มีความสุขครับ เป็นไฮเปอร์ด้วยอะไรอย่างงี้”
คิมม่อน-วโรดม “ส่วนของคิม ถ้าแฟนคลับจะรู้กันอยู่แล้วว่าคิมเป็นคนตรงๆ นะครับผม พูดจาโผงผาง ชัดเจน แล้วก็เป็นคนตลกครับ เป็นคนที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนอื่นเสมอ ”
คอปเตอร์-ภาณุวัฒน์ “เป็นคนชอบความสนุกสนานนะครับ ก็คือชอบพูดนู่นพูดนี่ไปเรื่อยกับแฟนคลับหรือว่ากับทุกคน แต่ว่าในเรื่องของการทำงาน ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับการทำงานมากๆ”
เต้-ดาวิชญ์ “เต้เป็นคนนิ่งสุดในวงครับ คือดูแบบก็เป็นผู้ใหญ่อะไรอย่างงี้ครับ แต่ว่าความจริงผมปัญญาอ่อนอยู่ (หัวเราะ) เอาจริง ๆ ก็คือผมถ้าดูจากบุคลิกภายนอก อาจจะดูนิ่ ๆ พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าเวลาอยู่แบบสนิทใจแล้วอะไรอย่างงี้ ผมก็จะแบบเฮฮาเหมือนคนทั่วไปแหละ แล้วก็เป็นคนเส้นตื้นครับ ”
เรื่องการร้องและเต้นสำหรับ SBFIVE 5 คนก็คือหนึ่งเดียว
“สำหรับเรื่องการร้องและการฝึกซ้อมของ SBFIVE นั้นไม่ได้มีการกำหนดตำแหน่งตายตัว เพลงไหนที่ออกมาแล้วเหมาะกับใคร ส่วนใหญ่เราก็จะแบ่งกันร้อง เพลงนี้ ท่อนนี้เหมาะกับใครอะไรแบบนี้ครับ ซึ่งทุกคนทางผู้ใหญ่เองเขาก็คัดมาแล้วนะครับว่าเสียงเพราะกันทุกคน แต่จริงๆ แล้ว เวลามีงานร้องเพลง เราก็จะปรึกษากัน เพลงนี้ใครอยู่ตรงไหน แบบนี้ครับ เราจะคุยกันตลอดเลยครับ แล้วก็แบ่งท่อนกัน เสียงใครเหมาะกับตรงนี้ก็ใส่ลงไป ก็คือช่วยกันครับ ”
หมั่นพัฒนาและฝึกฝนเพื่อผลงานที่ดีที่สุด
เห็นมีผลงานออกมาให้แฟนคลับได้คอยติดตามกันมาเรื่อยๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งงานเพลง งานละคร หรือแม้แต่อีเวนท์ต่างๆ หลายคนคงจะกังวลเรื่องการฝึกซ้อมของหนุ่มๆ บอกได้เลยว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ SBFIVE เองก็ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ทั้งการเป็นนักแสดงและการเป็นศิลปิน เสร็จจากการถ่ายทำละครก็กลับมาซ้อมร้อง ซ้อมเต้นกันต่อ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุดและที่สำคัญเลยเพื่อแฟน ๆ ที่คอยสนับสนุนทั้ง 5 หนุ่ม ได้เห็นถึงความตั้งใจและความพยายาม ถือว่าเป็นแรงผลักดันชั้นดีในการฝึกซ้อมอย่างหนัก และไม่หยุดพัฒนาฝีมือ SBFIVE ก็หวังว่า วันนึงจะทำให้ทุกคนภูมิใจมากที่สุด
อัพเดทงานแสดงที่กำลังจะลงจอ
“ เรื่อง Hotel Stars สูตรรักนักการโรงแรม ที่กำลังจะเปิดกล้องเดือนมิถุนายน เล่นกันทุกคนเลยทั้งวง ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กที่เพิ่งจบใหม่มาเข้าโครงการนี้เพื่อชิงความเป็นหนึ่งในโครงการ Hotel Stars ซึ่งคนที่ได้ชนะเลิศจากโครงการนี้ก็จะเหมือนอารมณ์ได้เป็นผู้จัดการโรงแรมที่ดีที่สุดของประเทศ ซึ่งมันก็จะมีความแบบว่าแข่งขันแล้วก็หักมุม สู้กัน อะไรแบบนี้ครับ ในการแข่งขันเองมันก็จะมีทั้งมิตรภาพ การเสียสละ การอยู่ร่วมกันครับผม เข้ามาโครงการนี้ก็ต้องพักด้วยกัน อยู่ด้วยกัน แล้วก็บางคนก็อาจจะมีร้าย มีหักหลังกันบ้างเพื่อเป็นสีสัน อยากให้ติดตามมากกว่าว่าความสนุกของการแข่งขัน มันจะเป็นอย่างไร ”
SBFIVE กับความหวังที่อยากให้ T-POP กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สุดท้ายนี้ 5 หนุ่ม SBFIVE ยังฝากไว้อีกว่า ในอนาคตพวกเขาจะตั้งใจฝึกซ้อมให้ดีขึ้น พัฒนาตัวเองทั้งด้านศักยภาพและด้านความสามารถ ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องชื่อเสียงหรือการเป็นที่รู้จัก แต่สิ่งที่ SBFIVE โฟกัสและอยากจะทำให้ผลออกมาสำเร็จลุล่วงมากที่สุดก็คือ การที่อยากให้วงการบันเทิงไทยเฟื่องฟูและทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก T-POP กันมากขึ้น